สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางชลบุรี – เกาะสีชัง

ช่วงหยุดวันแม่ปีนี้พาคุณแม่ไปย้อนวัยหวานกันสัก 2 วัน 1 คืน กับทริปที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ เกาะสีชัง แหล่งท่องเที่ยวสุดโรแมนติกที่ฮิตมาตั้งแต่สมัยแม่เรายังสาวๆ มีความวินเทจและคลาสสิกเบาๆ รับรองว่าพาไปเที่ยวเกาะสีชังคราวนี้ตอบโจทย์แน่นอน 

วันแรก กรุงเทพฯ – เกาะสีชัง

การเดินทางบนเกาะส่วนใหญ่จะใช้รถสามล้อเครื่องหรือที่เรียกว่าสกายแล็บ เปิดมิติใหม่พาคุณแม่ซิ่งกันได้อย่างสนุกสนาน และเตรียมเป็นตากล้องถ่ายรูปภาพให้คุณแม่กันรัวๆ เลย แต่ก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะคะ เพราะเส้นทางบนเกาะมีลักษณะเป็นเนินเขาคดเคี้ยว

– ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

ก่อนอื่นไปสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่กันก่อน ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ตั้งอยู่บนเชิงเขาสูงทางทิศเหนือของเกาะสีชัง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือมานาน เรามารู้จักตำนานกันสักหน่อย ในยุคสมัยที่ยังใช้เรือสำเภาเพื่อติดต่อค้าขาย เกาะสีชังถือเป็นทำเลที่เหมาะสมต่อการจอดเรือ โดยเฉพาะพ่อค้าชาวจีนนิยมมาจอดพักเรือที่นี่เป็นประจำ ในช่วงค่ำจะมีคนเห็นแสงวูบวาบบนหัวเกาะ จึงมีคนไปสำรวจและพบว่าบนนั้นเป็นถ้ำ ภายในมีหินรูปร่างคล้ายคนนั่งตั้งตระหง่านอยู่ จึงเรียกขานกันต่อมาว่า “เจ้าพ่อเขาใหญ่” มีความเชื่อว่าหากผู้ใดมากราบไหว้ติดต่อกัน 3 ปีจะทำให้เกิดโชคลาภและกิจการค้าขายร่ำรวย

– พระจุฑาธุชราชฐาน

เป็นพระราชวังบนเกาะแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่หลังจากวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ทำให้การก่อสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่างๆ ยุติลง ที่นี่จึงสิ้นสุดการเป็นเขตพระราชฐานนับแต่นั้น ภายในบริเวณมีสภาพภูมิทัศน์ที่งดงาม และยังคงมีสิ่งก่อสร้างที่น่าชมได้แก่ เรือนผ่องศรี เรือนวัฒนา และเรือนอภิรมย์ ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระจุฑาธุชราชฐาน ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง 

– เรือนไม้ริมทะเล

เรือนไม้สีเขียวเข้ม ได้ความรู้สึกวินเทจ ลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทาสีเขียว ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้เป็นร้านกาแฟและจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจในเกาะสีชัง

– อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร

เป็นอุโบสถยอดเจดีย์สีขาวสวยงาม ผสมผสานศิลปะไทยและศิลปะตะวันตกแบบโกธิค ด้านหน้าอุโบสถมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่นำหน่อมาจากพุทธคยา

– สะพานอัษฎางค์

เป็นสะพานท่าเรือขนาดใหญ่ สร้างด้วยไม้สักทาสีขาวทอดยาวลงไปในทะเล รัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่สมเด็จฯ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ พระราชโอรสทรงหายจากพระอาการประชวร และเพื่อใช้เป็นท่าเทียบเรือขึ้นเกาะสีชัง

ชวนคุณแม่แต่งตัวสไตล์วนิดามาแชะภาพกับสะพานอัษฎางค์ เข้ากับบรรยากาศและโรแมนติกสุดๆเลยล่ะ

– ช่องอิศริยาภรณ์ หาดหินกลม (ช่องเขาขาด หรืออ่าวเขาขาด)

ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ ใกล้สวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ครบ 60 พรรษา หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา มีสะพานวชิราวุธทอดยาวเลียบเชิงเขาสำหรับเดินชมทิวทัศน์ทางทะเล ตอนปลายสุดของช่องอิศริยาภรณ์มีลักษณะเป็นแหลม เรียกว่า แหลมวชิราวุธ ลักษณะคล้ายแหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม บริเวณหาดจะมีหินกลมขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5

– หาดถ้ำพัง

ถึงชื่อจะบอกว่า “พัง” แต่ถ้าพาแม่ไปแม่ต้องบอกว่า “ปัง” แน่ๆ ^^  หาดถ้ำพังเป็นส่วนหนึ่งของอ่าวอัษฎางค์ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม ทรายเนื้อเนียนละเอียด นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำและรับลมเย็นๆ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกอีกจุดหนึ่ง

เกาะสีชัง

พิกัด : https://goo.gl/maps/hmWTwHMvsXH2

การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ

1. เส้นทางสายบางนา-ตราด ใช้ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรี มุ่งตรงไปยังอำเภอศรีราชา ถึงทางเข้าหาดบางแสน ขับตรงไปประมาณ 13 กิโลเมตร จะเจอห้างโรบินสันศรีราชาอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาตรงห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะลอย ประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะถึง (หากต้องการค้างคืนสามารถจอดรถไว้ที่ฝั่งเกาะลอยได้เลย)

2. เส้นทางกรุงเทพฯ-มีนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทราเข้าสู่อำเภอบางปะกง จากนั้นเลี้ยวเข้าชลบุรีมุ่งสู่อำเภอศรีราชา เมื่อเห็นห้างโรบินสันศรีราชาทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาตรงห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะลอย

3. เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ยูเทิร์นเข้าสู่อำเภอศรีราชา บริเวณสวนเสือศรีราชา เข้าตัวเมืองศรีราชาถึงแยกไฟแดง เลี้ยวขวาผ่านหน้าโรบินสันศรีราชา แล้วเลี้ยวซ้ายไฟแดงหน้าองค์การโทรศัพท์ตรงไปเกาะลอย

(สำหรับท่านที่นำรถยนต์มาสามารถฝากรถไว้ที่จุดฝากรถทั่วไป)

**ท่าเรือเกาะลอย**

อัตราค่าโดยสาร คนละ 50 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
เรือออกจากฝั่งศรีราชา (เกาะลอย) เวลา 07.00 – 20.00 น.
เรือออกจากเกาะสีชังเวลา 06.00 – 19.00 น. โดยมีเรือออกทุกๆ ชั่วโมง

………………..

วันที่สอง เกาะสีชัง – ชลบุรี

– ทะเลบางแสน

เช้าๆ สดใสแบบนี้ไปลัดเลาะแถวเลียบหาดบางแสนกันสักหน่อย ชวนให้นึกถึงบรรยากาศสมัยคุณแม่ยังสาว พักผ่อนกันชิลล์ๆ มาในช่วงวันหยุดแบบนี้ที่นี่ก็จะคึกคักเป็นพิเศษ

การเดินทาง

จากท่าเรือเกาะลอยศรีราชา ใช้ถนนสุขุมวิท ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงป้ายแยกเข้าบางแสน (สามารถจอดรถได้ตลอดแนวชายหาด)

– ตลาดหนองมน

แหล่งซื้อของฝากที่โด่งดังแห่งหนึ่ง เชื่อว่าคุณแม่ขาชอปตัวยงทั้งหลายต้องนึกถึงบรรยากาศอันหอมหวนของตลาดหนองมนแห่งนี้ ที่นี่มีของฝากมากมาย ทั้งอาหารสดและอาหารแห้งเรียงรายเต็มไปหมด โดยเฉพาะข้าวหลามนั้น คือของขึ้นชื่อประจำตลาดหนองมนที่ทุกคนไม่ควรพลาด
ที่ตั้ง : 166 ถนนสุขุมวิท ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 20.00 น.

พิกัด : https://goo.gl/maps/Edn85e1UnWE2

การเดินทาง

จากบริเวณหาดบางแสน ใช้ถนนถนนสุขุมวิท ตลาดอยู่ริมถนนสุขุมวิท (สามารถจอดรถได้ริมถนน)

– ทานข้าวกลางวัน ณ เรือนปะการัง

ร้านอาหารแถบบางแสนมีจำนวนไม่น้อย แต่แอดแนะนำเลยว่าถ้าพาแม่มาร้านนี้ แม่จะต้องให้รางวัลลูกดีเด่นแน่นอน ^^ ร้านนี้บรรยากาศดี ภายในแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซน outdoor ติดทะเลและโซน indoor ชิลล์ๆ นำเสนออาหารทะเลสดๆ ซีฟู้ดจัดเต็ม บริเวณร้านกว้างขวาง จอดรถได้สบาย เมนูแนะนำ คือ น้ำพริกไข่ปู กุ้งเผา และปูม้านึ่งเนื้อเน้นๆ อิ่มพุงกางก่อนกลับเลยค่ะ

ที่ตั้ง : 178 บางแสนสาย 1 ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี (แหลมแท่น)
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 23.00 น.
โทร. 038 191 802

พิกัด : https://goo.gl/maps/7ztd8bAXzdA2

การเดินทาง

จากถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3137 (ถนนลงหาดบางแสน) ขับไปจนถึงวงเวียนแหลมแท่น ถนนบางแสนสาย 1 ร้านจะอยู่ตรงข้ามวงเวียน

ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ เรือนอาหารปะการัง บางแสน

– ตลาดเก่าอ่างศิลา

พาคุณแม่ย้อนวัยหวานทั้งที พลาดไม่ได้กับตลาดเก่าอ่างศิลา เดินเล่นชมความเก่าแต่เก๋ของตลาดให้คุณแม่ได้ถ่ายรูปย้อนวัยและรำลึกถึงบรรยากาศสมัยสาวๆ ฮ่าๆๆ

แต่เดิมที่นี่มีชื่อว่า อ่างหิน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “อ่างศิลา” อ่างศิลาเป็นหมู่บ้านชายทะเล ชาวบ้านจึงประกอบอาชีพประมง แปรรูปอาหารทะเล เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่และหอยนางรม ที่นี่เป็นแหล่งซื้อของฝากที่มีทั้งของเก่า สินค้าแฮนด์เมด อาหารทะเลต่างๆ ขนมสูตรโบราณหลายเจ้า และของขึ้นชื่อคลาสสิกจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ครกหินอ่างศิลา นั่นเองค่ะ ครกที่นี่วาดลวดลายต่างๆ น่ารักไม่เหมือนใครเลย

นอกจากของกินต่างๆ ในตลาดเก่าแล้ว ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจและสวยงามให้ได้ชมกันอีก ได้แก่ “อาไศรยสถาน”  สถานที่พักฟื้นของผู้ป่วยในสมัยรัชกาลที่ 5 ประกอบด้วย ตึกมหาราช (ตึกขาว) และตึกราชินี (ตึกแดง) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว
ที่ตั้ง : ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
เปิดวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 05.00 – 19.00 น.
เทศบาลตำบลอ่างศิลา โทร. 038 142 100 ต่อ 101, 038 398 497

พิกัด : https://goo.gl/maps/4awVwBbv9pE2

การเดินทาง

ใช้ถนนบางนา-ตราด เข้าสู่จังหวัดชลบุรี จากนั้นเข้าถนนสุขุมวิท และเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3134 (ตำบลเสม็ด–อ่างศิลา–เขาสามมุข)

– วัดใหญ่อินทาราม

ก่อนจะกลับเราแวะพาคุณแม่ไปไหว้พระที่ วัดใหญ่อินทาราม วัดเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดชลบุรี สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระอุโบสถฐานแอ่นโค้งแบบท้องสำเภา สถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนปลาย และชมไฮไลท์ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม เหนือขอบหน้าต่างเป็นภาพเทพชุมนุม ส่วนผนังทั้งสองด้านเขียนเรื่องทศชาติชาดก และพระเวสสันดรชาดก

ที่ตั้ง : ถนนเจตน์จำนงค์ ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.

โทร. 038 285 397

พิกัด : https://goo.gl/maps/fUfqa5xNseu

การเดินทาง

จากอ่างศิลา วิ่งไปตามถนนถนนสุขุมวิท ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 13 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนเจตน์จำนงค์ (หัวมุมด้านซ้ายมีศูนย์บริการสาธารณสุข 1) จากนั้นขับไปเรื่อยๆ ประมาณ 1.5 กิโลเมตรจะเจอประตูทางเข้าวัดอยู่ด้านซ้ายมือ วัดจะอยู่ก่อนถึงสี่แยกที่ตัดกับถนนอัครนิวาส (สี่แยกท่าเกวียน) สามารถจอดรถได้ที่บริเวณหน้าวัด

Scroll to Top
Send this to a friend