เที่ยวแบบสายกรีนที่ปทุมธานี ตอนที่ 2

ท่องเที่ยวสไตล์ใหม่ ใส่ใจธรรมชาติ เรียนรู้การเกษตร อินเทรนด์กับร้านต้นไม้ เอนกายพักผ่อนโฮมสเตย์ริมคลอง ชิมของอร่อยที่ตลาดริมน้ำ อิ่มหนำกับเบเกอรี่และเครื่องดื่มที่คาเฟ่ดอกไม้ในสวน

หากขับรถมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร ราว 40 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็เข้าสู่ จังหวัดปทุมธานี หนึ่งในห้าจังหวัดปริมณฑลที่ตั้งอยู่ชิดติดขอบเมืองกรุง บนพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม้ความศิวิไลซ์ได้หลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปทุมธานีกลายเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนาทาง เทคโนโลยีและอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพื้นที่สีเขียว เรือกสวนไร่นาของชาวบ้านอันหนาแน่นไปด้วย พืชผักผลไม้นานาชนิด และวิถีชีวิตของชุมชนริมฝั่งคลอง ที่สัมผัสได้ถึงท่วงทำนองของการดำเนินชีวิตอันเรียบง่าย ฉายให้เห็นเสน่ห์ที่ซุกซ่อนอยู่ในจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งผสานความเป็นเมืองและความเป็นชนบทเอาไว้ได้อย่างสมดุล สำหรับสายเที่ยวรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ชื่นชอบธรรมชาติด้วยแล้ว เราเชื่อว่าปทุมธานีมีสิ่งดี ๆ ให้คุณแอบหลงรัก เราจึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับ 12 สถานที่ ดีต่อใจในจังหวัดปทุมธานี นอกจากจะได้ท่องเที่ยว อย่างสบายใจแล้ว ยังได้เก็บเกี่ยวความรู้มากมายระหว่างการเดินทางอีกด้วย จะเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ หรืออยู่พักสัก 2 วัน 1 คืน ให้ชื่นมื่นหัวใจ ได้อ้อยอิ่งใช้ชีวิต ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ก็บอกได้เลยว่าเพลิดเพลินเกินคาดเลยทีเดียว

ฟาร์มลุงแดง เมลอน & ผักสลัด

เที่ยว ชม ชิม เมลอนและผักสดจากฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ จากความที่เป็นคนชอบกินเมลอน แต่สมัยก่อนนั้นหาซื้อยากและมีราคาค่อนข้างแพง จึงทำให้ลุงแดง เกษตรกรเจ้าของฟาร์มลุงแดง เมลอน & ผักสลัดแห่งนี้ ริเริ่มที่จะปลูกเมลอนเอง โดยค่อยๆ ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ล้มลุกคลุกคลานลองผิดลองถูก และพัฒนามาเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จได้อย่างเช่นทุกวันนี้ จากเนื้อที่ทั้งหมด 8 ไร่ ครึ่งหนึ่งถูกขุดเป็นบ่อลึกเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้เอง เพราะการใช้น้ำจากภายนอกหรือจากคลองชลประทาน อาจมีสารปนเปื้อนเข้ามาทำให้พืชผักเสียหายได้ ด้วยความที่เป็นเกษตรอินทรีย์จึงต้องให้ความสำคัญเรื่องสารพิษตกค้าง หรือสารเคมีปนเปื้อนเป็นพิเศษ

ดังนั้น เราจึงมั่นใจได้ว่า ผัก ผลไม้ ของที่นี่สะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษ ปัจจุบันฟาร์มลุงแดงมีโรงเรือนปลูกเมลอน 10 หลัง ผักสลัด 2 หลัง มะเขือเทศ 1 หลัง และมัลเบอร์รี่ที่ปลูกไว้เป็นรั้วล้อมรอบอยู่ด้านนอก ทั้งหมดนี้สามารถเข้ามาเยี่ยมชม เก็บพืชผัก ผลไม้ได้เอง รวมไปถึงฟาร์มไก่ ก็มาเก็บไข่ไก่สดๆ ได้ด้วย

มาถึงฟาร์มทั้งทีต้องมีการพิสูจน์ความสดใหม่ของวัตถุดิบจากในฟาร์ม ด้วยการรับประทานอาหารอร่อยๆ ที่คาเฟ่ มีเมนูให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม เราสั่งสลัดกุ้งทอดที่มีผักสลัดอย่างกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เก็บสดๆ มาจากโรงเรือน กรอบอร่อยเข้ากันได้ดีกับน้ำสลัดและกุ้งทอด ตามมาด้วยส้มตำผลไม้ที่มีพระเอกเป็นเมลอนสีทอง เนื้อสีส้ม ฟูกรอบ หวานฉ่ำ ตัดรสด้วยน้ำส้มตำเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ บอกเลยว่าฟินกินแล้วเพลินมากๆ ส่วนของหวานนั้นเราเลือกเป็นเมลอนฮันนี่โทสต์ ขนมปังอุ่นๆ กรอบนอกนุ่มใน อบอวลด้วยกลิ่นเนย ทอปด้วยไอศกรีมวนิลา เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อเมลอนลูกกลมๆ เพิ่มน้ำผึ้งมาให้สำหรับคนชอบหวาน อร่อยแบบไม่รู้จะอธิบายยังไง เอาเป็นว่ากินหมดตอนไหนไม่รู้ตัวเลยแหละ

ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่พลาดไม่ได้อีกเช่นกัน เมลอนสดปั่น หวานหอมชื่นใจสุดๆ หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็น เล่นจักรยานปั่นน้ำ พายเรือไทย ให้อาหารน้องไก่อ้วนและไก่ญี่ปุ่นเล่นชิงช้าสูงที่ต้นไม้ใหญ่ท้ายฟาร์ม พร้อมถ่ายรูปวิวนา อย่าลืมหอบหิ้วเมลอนสดๆ กลับบ้านสักลูกสองลูก

ที่ตั้ง: 26/4 หมู่ 7 ซ.เฉลิมพระเกียรติ 2 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
วัน-เวลา: วันพุธ-วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์และวันอังคาร) 9.00 – 18.30 น.
ค่าเข้าชม: ไม่เสียค่าเข้าชม
โทร: 08-1989-5906
เว็บไซต์: ฟาร์มลุงแดง Melon Farm & Cafe ปทุมธานี

วัดปัญญานันทาราม

ชมเจดีย์พุทธคยาจำลองจากอินเดีย สถาปัตยกรรมแห่งธรรม ความโดดเด่นที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางพื้นที่อันกว้างใหญ่ คือ เจดีย์พุทธคยาสีเทาอันสง่างาม ที่จำลองแบบมาจากประเทศอินเดีย เพียงแค่เห็นก็สะดุดใจในความสวยงาม แปลกตา ด้านหน้ามีบ่อน้ำสี่เหลี่ยมตั้งอยู่ตรงกลาง สองข้าง ทางเดินเป็นต้นไม่ใหญ่ มีบันไดทางขึ้นไปยังเจดีย์ด้านบน ก่อนจะเข้าสู่องค์เจดีย์มีรูปหล่อของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ผู้ก่อตั้งวัดปัญญานันทารามแห่งนี้ ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าให้ประชาชนที่แวะเวียนมาได้กราบไหว้

ส่วนด้านในก็มีพระประทานองค์ใหญ่ให้เข้าไปกราบไหว้ด้วยเช่นกัน อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ คือ ภาพปริศนาธรรม 3 มิติ จัดแสดงอยู่ด้านล่างเจดีย์พุทธคยา ซึ่งเรียกว่า ชั้นพุทธบารมี โดยแต่ละภาพต่างก็มีความหมายที่แฝงไปด้วยคติธรรมสอนใจในเรื่องของอริยสัจ 4 มีทั้งหมด 29 ภาพ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการช่วยให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการศึกษาหลักธรรมคำสอนนั่นเอง

ความพิเศษของวัดแห่งนี้ที่เราสังเกตเห็นอีกอย่าง ก็คือ อุโบสถของวัดที่ไม่มีรูปลักษณ์ความเป็นอุโบสถอย่างวัดทั่วไปไม่มีช่อฟ้าใบระกา รวมถึงไม่มีการปิดทององค์พระ หรือฝังลูกนิมิต แต่สร้างอุโบสถขึ้นในรูปแบบของตัวอาคารที่มุ่งเน้นไปทางพุทธสถาปัตย์ ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกมืออาชีพ ผศ.ประชา แสงสายัณห์ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดีไซน์รูปแบบอาคารอุโบสถให้เรียบง่าย ภายใต้กรอบแนวทาง 3 ป. ของพระปัญญานันทมุนี เจ้าอาวาส คือ “ประหยัด ประโยชน์ และประยุกต์เข้ากับยุคสมัย” นอกจากนี้ ที่นี่ยังโด่งดังในเรื่องของการปฏิบัติธรรม โดยมีกิจกรรมให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าร่วม อย่างเช่น การบวชเนกขัมมะ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันสำคัญทางศาสนา
.
ที่ตั้ง: 1 หมู่ 10 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
วัน-เวลา: วันจันทร์-วันอาทิตย์ 8.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม: ไม่เสียค่าเข้าชม
โทร: 0-2904-6107 , 08-6461-8353
เว็บไซต์: www.watpanya.org

บ้านตานิด : Baan Ta Nid River Lodge’n Art Camp

ลิ้มรสอาหารไทยโบราณ นอนบ้านเก่าริมน้ำ เรียนงานศิลปะ บ้านไม้สักทองโบราณที่ผสมผสานความสมัยใหม่สีขาวเขียวหลังใหญ่ ด้านหลังติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนด้านหน้าโอบล้อมไปด้วยต้นไม้และสวนเขียวชอุ่ม เพียงแค่เดินเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงความร่มรื่น เย็นสบายและผ่อนคลาย บ้านอันอบอุ่น หลังนี้มีอายุมากว่า 70 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยคุณย่า ตกทอดมาจนถึงคุณพ่อ(ตานิด) และปัจจุบันก็คือพี่นก ผู้ริเริ่มดัดแปลงบ้านเก่าให้กลายมาเป็นโรงแรมขนาดย่อม ด้วยความที่มีอาชีพเป็นมัณฑนากรอยู่แล้วจึงรีโนเวทบ้านหลังนี้ด้วยตัวเอง จนได้รับรางวัลบ้านอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยาม โดยมีการรักษาตัวชิ้นส่วนบ้านเดิมเอาไว้ได้ครบถ้วน พี่นกบอกว่า จากการที่เราคอยดูแลบำรุงรักษาบ้านแล้วเปิดเป็นโรงแรมและร้านอาหาร จึงเหมือนเป็นการทำสาธารณประโยชน์ทางศิลปวัฒนธรรม เป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ จึงทำให้ได้รับรางวัลนี้มา

ห้องพักจำนวน 8 ห้อง มีชื่อเรียกตามที่ตั้งของห้อง เริ่มตั้งแต่ห้องริมน้ำ ห้องริมตลิ่ง ห้องริมสวน และห้องหน้ามุข แต่ละห้องมีจุดเด่น มีเสน่ห์ที่ต่างกันออกไป มีทั้งแบบห้องน้ำรวมและห้องน้ำในตัว เราเข้าพักในห้องที่ถือว่าได้รับความนิยมมากสุด คือ ห้องริมน้ำ1 ภายในตกแต่งแบบเรียบง่ายสไตล์วินเทจ ด้วยความที่ห้องเป็นเพดานสูง ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบาย กว้างขวางกำลังดี หน้าห้องมีระเบียงน้อยๆ พร้อมที่นอนและหมอนอิงให้นั่งอ้อยอิ่งอ่านหนังสือ หรือจะเป็นมุมเล็กๆ ด้านข้างให้นั่งห้อยขารับลม ส่วนใครอยากชมวิวกว้างๆ เดินลงบันไดไปที่แพด้านล่างก็จะเห็นโค้งน้ำไกลสุดสายตา

เสียงเรือหางยาวปลุกให้ตื่นในตอนเช้า เราออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ริมระเบียง ก็ได้ยินเสียงทำกับข้าวดังมาจากครัวพร้อมกลิ่นหอมฉุยลอยมา อาหารเช้าชุดใหญ่แบบบริการตัวเองถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี มีให้เลือกตั้งแต่ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ขนมจีบ ซาลาเปา ขนมปัง ชา กาแฟ และผลไม้ แถมด้วยต้มเลือดหมูเสิร์ฟมาพร้อมข้าวสวย สำหรับผู้เข้าพักห้องละ 1 ชุด ระหว่างที่นั่งทานอาหารเช้าก็จะเห็นพ่อค้าแม่ค้าออกเรือมาขายของ ได้เห็นวิถีชีวิตของชุมชนริมคลองอีกด้วย

สำหรับใครที่ไม่ได้มาพัก ก็มาชิมอาหารอร่อยๆกันได้ ที่นี่เป็นอาหารไทยแท้ๆ ซึ่งบางเมนูก็หาทานค่อนข้างยาก อย่างเช่น หลนปลากุเลาหอม ยำขมิ้นขาว ปลาค้าวแดดเดียว พะโล้ไข่เค็ม ฯลฯ จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครก็คือ รสชาติที่จัดจ้านถึงเครื่อง พี่นกบอกว่ารสชาติต้องทำให้จัดจะได้จำ ถ้าไม่จัดแล้วไม่จำ เครื่องแกงทุกอย่างทำเองโขลกเอง ทั้งแกงเขียวหวาน แกงส้ม เพื่อให้ได้กลิ่นที่หอม พร้อมเนื้อสัมผัสของสมุนไพร ทำให้น้ำแกงมีความเข้มข้น ไม่ใส ทานแล้วประทับใจแน่นอน ส่วนเมนูแนะนำที่ใครมาก็ต้องสั่ง เช่น แกงส้มไหลบัวกุ้งสด ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน กุ้งสะดุ้ง ปีกไก่ลูกตานิด เป็นต้น รายการอาหารในร้านกว่า 60 อย่าง ทำให้เรานั่งเลือกอยู่นาน เพราะอยากทานไปหมดทุกอย่างเลย เราสั่งเป็น ข้าวผัดปลาทู หมูกรอบคั่วพริกเกลือ ผัดสามเหม็น จ๊อปูอึ๋ม ตบท้ายด้วยลอดช่องวัดเจษฏ์ กับไอศกรีมชาเย็นเฉาก๊วย บอกเลยว่าอร่อยทุกอย่างจริงๆ ไม่พูดเยอะเพราะอยากให้คุณมาลองด้วยตัวเอง

นอกจากที่นี่จะเป็นที่พักและร้านอาหารแล้ว ยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปหรือ ART CAMP ให้ทำด้วย เช่น ผ้ามัดย้อม เพ้นท์เซรามิก และอื่นๆ อีกมากมายตามที่ผู้เข้าพักสนใจ (กิจกรรมไม่มีทุกสัปดาห์ สามารถสอบถามหรือแจ้งความประสงค์ เข้ามาได้)
.
ที่ตั้ง: 40 ม.2 ต.กระแชง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 12160
วัน-เวลา: ร้านหยุดทุกวันอังคาร 11.00 – 21.00 น.
ค่าเข้าชม: ราคาห้องพัก เริ่มต้นที่ 1,800 – 2,7000 บาท
โทร: 08-5838-3242, 08-1835-0660
เว็บไซต์: Baan Ta Nid River Lodge ‘n Art Camp

Scroll to Top
Send this to a friend