มาตรการเข้า-ออก จังหวัดภูเก็ต (เผยแพร่ วันที่ 14 พ.ค. 2564)

เผยแพร่บน Facebook : ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต วันที่ 14 พฤษภาคม 2564

มาตรการเข้าออกภูเก็ต ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2645/2564 และ คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2617/2564 เรื่อง มาตรการเข้มข้นยกระดับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

——————————————————————————

.

คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2645/2564 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติม คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่  2617/2564 มาตรการเข้มข้นยกระดับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

.

สาระสำคัญ

โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต จึงแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 1 และข้อ 1 (1) ของคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2617/2564 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ดังนี้

  ข้อ 1 การงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง ปิดช่องทางบก ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ช่องทางน้ำ ท่าเรือ ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ห้ามบุคคลและยานพาหนะ ทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต เว้นแต่

  (1) เป็นบุคคลที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Rapid Test ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง นั้น

  ในกรณี ที่ไม่สามารถดำเนินการตามข้อ 1 (1) ได้ ให้เข้ากับการกักกันตัวเป็นระยะเวลา 14 วันโดยเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อออกคำสั่งให้กักกันตัวในที่พักอาศัย (Home Quarantine) และให้อยู่ในการติดตามดูแล ของเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล, เทศบาล, อบต.) ตลอดระยะเวลาที่กักกัน

.

นอกจากที่แก้ไขเพิ่มเติมให้คงเดิมตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2617/2564 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564

.

  อนึ่งเนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

.

  หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

.

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

.

สั่ง ณ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2564

.

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

.

——————————————————————————

.

คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่  2617/2564 เรื่อง เพิ่มมาตรการเข้มข้นยกระดับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

.

สาระสำคัญ

.

ข้อ 1 การงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง ปิดช่องทางบก ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ช่องทางน้ำ ท่าเรือ ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ห้ามบุคคลและยานพาหนะ ทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต  เว้นแต่ 

(1) เป็นบุคคลที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Rapid Test ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง และ

(2) เป็นผู้ขับขี่และผู้ที่เดินทางมากับยานพาหนะ ดังต่อไปนี้

  (2.1) รถขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อการดำรงชีพ สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์ที่จำเป็น

  (2.2) รถขนส่งยา วัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ทางการแพทย์

  (2.3) รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย

  (2.4) รถขนส่งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง พลังงาน

  (2.5) รถขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน

  (2.6) บุคคลผู้ได้รับคำสั่งจากส่วนราชการให้มาปฏิบัติภารกิจจำเป็นเร่งด่วน

  (2.7) รถขนส่งสิ่งจำเป็นเพื่อจัดทำบริการสาธารณะ หรือกิจการประเภทที่มีความจำเป็นเร่งด่วน     

  (2.8) รถขนส่งวัสดุก่อสร้าง พัสดุและสิ่งพิมพ์ ต้องกำหนดเวลาในการเข้า โดยให้อยู่ในการพิจารณาของผู้บัญชาการเหตุการณ์ด่านตรวจภูเก็ตหรือผู้ได้รับมอบหมาย             

  (2.9) ผู้ขับขี่และผู้ที่เดินทางมากับยานพาหนะส่วนบุคคล ที่มีคุณสมบัติตามข้อ 1 (1)

.

โดยให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะและผู้ที่เดินทางมากับรถดังกล่าว ต้องมีหนังสือรับรองความจำเป็นในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต หรือมีใบแจ้งประเภทสินค้าเป็นหลักฐาน เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ และกรณีเข้าพักในโรงแรม หรือสถานที่พักอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายโรงแรม พักอาศัยในบ้าน หรือเดินทางชั่วคราวไม่พักค้างคืนให้ถือปฏิบัติตามข้อ 2

.

ข้อ 2 มาตรการยกระดับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ปฏิบัติดังนี้

  (2.1) ผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต ทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ RT – PCR หรือวิธีการ Antigen Rapid Test  ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง

  (2.2) ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต

  (2.3) ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต

  (2.4) ให้สังเกตติดตามอาการตนเอง (Self-Monitoring) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโดยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่ชุมชน หรือสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก 

.

กรณี ผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต และพักในโรงแรม หรือสถานที่พักอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายโรงแรม ให้เจ้าของหรือผู้ประกอบการ ต้องดำเนินการดังนี้

.

  1) คัดกรองอาการและวัดไข้ให้ผู้เข้าพักเมื่อแรกรับ

  2) ตรวจสอบการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และการลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com ของผู้เข้าพัก เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต

  3) จัดทำบันทึกการติดตามผู้เดินทางรายบุคคล COVID – 19 รวมถึงกรณีที่ออกไปทำกิจธุระ ทำงาน ประกอบธุรกิจ หรือทำกิจธุระอื่นใด โดยระบุ วัน เวลา สถานที่ ที่จะไปปฏิบัติภารกิจ ส่งรายงานให้ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล, เทศบาล, อบต.) ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมหรือสถานที่พักอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายโรงแรม เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับตรวจติดตามโรคตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่ชุมชนหรือสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก ตามแบบรายงานแนบท้ายคำสั่งนี้

.

กรณี พักอาศัยในบ้าน ให้เจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้าน เจ้าของหรือผู้ควบคุมสถานประกอบการหรือสถานที่อื่นใด จัดทำบันทึกการติดตามผู้เดินทางรายบุคคล COVID – 19 ส่งรายงานให้ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล เทศบาล, อบต.) ในพื้นที่ที่พักอาศัย ตามแบบรายงานแนบท้ายคำสั่งนี้

.

  ผู้ประกอบการ โรงแรม หรือสถานที่พักอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายโรงแรม เจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้าน เจ้าของหรือผู้ควบคุมสถานประกอบการ หรือสถานที่อื่นใด ไม่จัดส่งข้อมูลบันทึกการติดตามและการเดินทางของผู้เข้าพัก ตามแบบรายงานแนบท้ายคำสั่งนี้อาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 49 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

.

  กรณี ผู้เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ตชั่วคราว หรือผู้ขนส่งสิ่งจำเป็นที่ไม่แวะค้างคืนในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 มาแล้ว 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 โดยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Rapid Test ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง และต้องมีหนังสือรับรองความจำเป็นในการเดินทาง หรือใบส่งของจากต้นสังกัด แสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ ตามแบบหนังสือรับรองการขนส่งสินค้าแนบท้ายคำสั่งนี้เพื่อประโยชน์ในการติดตาม เฝ้าระวังและควบคุมโรค และเมื่อเสร็จภารกิจให้เดินทางกลับโดยเร็ว

.

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

.

สั่ง ณ วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2564

.

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

.

——————————————————————————

ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 อย่างเป็นทางการของจังหวัดภูเก็ต (Official COVID-19 Information Center Phuket) เพื่อป้องกันข่าวปลอมหรือข่าวที่ทำให้เกิดการแตกตื่นตระหนก ท่านสามารถติดตามข่าวสารโควิด-19 อย่างเป็นทางการของจังหวัดภูเก็ตได้จากอีก 2 ช่องทางหลัก ปชส. จังหวัดภูเก็ต และ สสจ.ภูเก็ต

.

สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมควบคุมโรค 1422 หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต โทร 094-5938876, 062-2435116

.

สนับสนุนโดย จังหวัดภูเก็ต, องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต, บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด

ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต http://www.facebook.com/109168820738303/posts/306489217672928

Scroll to Top
Send this to a friend