เพื่อนร่วมทาง

เกาะขายหัวเราะ : ตราด🌊🌞

เกาะขายหัวเราะ…เพื่อน ๆ เคยได้ยินชื่อนี้กันไหมคะ หากใครเคยอ่านการ์ตูนขายหัวเราะ ต้องเคยเห็นแก๊กตลกที่มีฉากเป็นเกาะเล็ก ๆ กลางทะเล มีต้นมะพร้าวยืนต้นเด่นอยู่หนึ่งต้นกันมาบ้าง แต่ใครเลยจะคิดว่าเกาะลักษณะที่ว่านี้มีให้เห็นจริง ๆ กลางท้องทะเลตราด ไปดูกันเลย เกาะขายหัวเราะ ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของเกาะกระดาดแห่งท้องทะเลตราด เดิมเกาะนี้ไม่มีชื่อ แต่ด้วยลักษณะของเกาะ ทำให้มีนักท่องเที่ยวตั้งฉายาให้ว่าเกาะขายหัวเราะ ต่อมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานตราด ร่วมกับขายหัวเราะ โปรโมทเกาะไร้ชื่อแห่งนี้ให้กลายเป็น “เกาะขายหัวเราะ” อย่างเป็นทางการ ทำให้หลาย ๆ คนอยากมาติดเกาะกันเป็นแถวเลยล่ะ โดยปกติแล้วเกาะขายหัวเราะมักจะถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของการไปเที่ยวเกาะหมากและเกาะกระดาด สามารถเดินทางแบบวันเดย์ทริปได้ โดยเริ่มต้นที่เกาะหมาก แล้วซื้อทริปเที่ยวเกาะขายหัวเราะจากที่พักบนเกาะหมากได้เลย ราคาประมาณ 700 บาทต่อคน (สอบถามราคาและช่วงเวลาโดยตรงกับที่พักได้เลย) ทริปจะเริ่มจาก นั่งเรือไปยังเกาะกระดาด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้วต่อรถแทรกเตอร์เที่ยวดูกวางและสวนมะพร้าวบนเกาะเรื่อย ๆ ไปจนถึงท้ายเกาะ หากเป็นช่วงน้ำลง จะมีสันทรายปรากฏ นักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามทะเลผ่านเกาะนกในและนกนอกไปถึงเกาะขายหัวเราะได้เลย แต่หากเป็นช่วงน้ำขึ้นจะใช้เรือไปส่ง ช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวหมู่เกาะในท้องทะเลตราด จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคมสำหรับคนที่จะไป อย่าลืมเช็คระดับน้ำขึ้นน้ำลงกันให้ดี เกาะขายหัวเราะจะสวยสุดตอนระดับน้ำทะเลอยู่ที่ระดับ 1.7-2.1 เมตร ของระดับน้ำทะเลที่แหลมงอบ และอย่าลืมสวมใส่รองเท้าที่กระชับพร้อมลุยน้ำ โขดหิน และพื้นทรายมากันนะ เช็คระดับน้ำได้ที่นี่ https://bit.ly/3NaW6kF*** ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพอากาศในแต่ละวัน *** สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานตราด โทร. 0 3959 7259

เกาะขายหัวเราะ : ตราด🌊🌞 อ่านเพิ่มเติม

✨ สวยสด หาด เขา ถ้ำ ณ ประจวบคีรีขันธ์ ✨

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากหัวหินถิ่นดังที่เราคุ้นหูกันอยู่แล้ว ก็ยังมีที่เที่ยวอีกมากมายกระจายอยู่ทั่วทุกอำเภอ ทั้งทะเล ป่าเขา วนอุทยานฯ หากเพื่อน ๆ ยังไม่เคยสำรวจที่อื่น ๆ นอกจากหัวหิน วันนี้แอดมีสถานที่ท่องเที่ยวในระยะเวลาสั้น ๆ 2 วัน 1 คืน มาฝากค่ะ  วันที่ 1 1. ชมทัศนียภาพประจวบฯ ที่ “จุดชมวิวเขาแดง” 2. ส่องสัตว์ป่า ณ “อุทยานแห่งชาติกุยบุรี” 3. ชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่ “อ่างเก็บน้ำยางชุม”  วันที่ 2 4. รับแสงแรกของวัน ที่ “หาดปากน้ำปราณ” พร้อมถ่ายรูปชิค ๆ กับ “ต้นตาลสามต้น” 5. ชมป่าชายเลนและพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ณ “วนอุทยานปราณบุรี” 6. อิ่มอร่อย ที่ Eureka Beach Cafe  วันที่ 1 จุดชมวิวเขาแดง  จุดชมวิวเขาแดง ถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดจุดหนึ่งของประจวบฯ อยู่ในเขตอุทยานสามร้อยยอด ขับรถจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ที่ “จุดชมวิวเขาแดง” นี้สามารถมองเห็นได้ทั้งวิวเขาสามร้อยยอด ชายหาดสามพระยา และบ้านเรือนต่าง ๆ ที่บริเวณทางขึ้นจะมีจุดบริการนักท่องเที่ยว สามารถสอบถามข้อมูลได้ จุดชมวิวเขาแดง เป็นภูเขาหินปูนที่มีความสูงชัน แนะนำให้เพื่อน ๆ ใส่รองเท้าที่กระชับและเดินสบาย ระยะทางเดินโดยรวมประมาณ 500 เมตร โดยจะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ เมื่อเดินมาถึงด้านบนสุด เราจะได้เห็นวิวสวย ๆ แบบพานอรามากันเลย หามุมเหมาะ ๆ แล้วถ่ายรูปมาอวดกันได้เลยจ้า แต่ต้องระมัดระวังกันด้วย ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้วย  หากใครมีโอกาสมาที่นี้ในตอนเช้าตรู่ สามารถมารอชมได้ แต่จะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อน เนื่องจากในเวลาปกติจะเปิด 08.00 น. เป็นต้นไป  ตำบลเขาแดง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 15.30 น.  032 821 568 (อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด) https://goo.gl/maps/HPB8RisMsBkPBPJ76 อุทยานแห่งชาติกุยบุรี  ก่อนจะไปเที่ยวกันต่อที่ “อุทยานแห่งชาติกุยบุรี” แอดจะพาไปแวะรับประทานอาหารกลางวันระหว่างทางกันก่อน แถว ๆ สถานีรถไฟกุยบุรี หรือตลาดสดกุยบุรี มีร้านอาหารให้เลือกเยอะเลย อิ่มแล้วก็ไปชมธรรมชาติในป่าใหญ่กัน อุทยานแห่งชาติกุยบุรีมีพื้นที่ครอบคลุมถึง 4 อำเภอด้วยกัน สภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนและเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี ที่นี่เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่ามากมาย สื่อให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและระบบนิเวศน์  ไฮไลต์ของที่นี่คือการมาส่องสัตว์ ช่วงเวลาที่แนะนำคือช่วงเวลา 15.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงที่สัตว์ป่าเริ่มออกมาหากิน แนะนำให้มาถึงที่นี่ไม่เกิน 14.00 น. เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวเข้าพื้นที่ และใช้เวลาเดินทางไปยังจุดชมประมาณ 30 นาที  สัตว์ป่าที่มีมากของที่นี่ได้แก่ ช้างป่า กระทิง แต่หากจังหวะดี เพื่อน ๆ อาจจะได้ชมสัตว์ป่าอื่น ๆ อีก เช่น วัวแดง นกเงือก และสุนัขจิ้งจอก  ในการเที่ยวชม สามารถใช้บริการรถนำชมของชมรมท่องเที่ยวอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ผ่านการอบรมและทำหน้าที่ร่วมกับอุทยานฯ พานักท่องเที่ยวเข้าไปชมสัตว์ตามจุดต่าง ๆ  โดยกิจกรรมชมสัตว์ป่า จะอยู่ภายใต้การควบคุมความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปเอง เนื่องจากสัตว์ป่าภายในอุทยานฯ มีจำนวนมาก และกระจายออกหากินทั่วพื้นที่ อาจทำให้เกิดอันตรายได้นอกจากนี้ ยังมีข้อปฏิบัติอื่น ๆ อีก เช่น หากเจอสัตว์ป่าระหว่างทางจะต้องอยู่บนรถ ไม่ควรเข้าไปใกล้ช้างป่าหรือสัตว์ป่าทุกชนิด ไม่ส่งเสียงดัง ห้ามเปิดแฟลช ไม่ควรให้อาหารสัตว์ป่า  ค่าเข้าชมอุทยานฯ ผู้ใหญ่ 40 บาท / เด็ก 20 บาท (ชาวต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท)  ค่าบริการรถโฟร์วีลรวมไกด์นำชม 850 บาท/คัน นั่งได้ 7-8 คน  บ้านย่านซื่อ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  081 776 2410, 032 510 453 https://goo.gl/maps/e6V5B3n6zgrJiHuy7 อ่างเก็บน้ำยางชุม  ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมาก นั่นคือ “อ่างเก็บน้ำยางชุม” โครงการในพระราชดำริ ที่สร้างขึ้นเป็นแหล่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่ชลประทาน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับป่ากุยบุรี ตลอดจนส่งน้ำให้แก่พื้นที่เพาะปลูกที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ แอดมาถึงช่วงเย็น ๆ ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศกำลังดี ลมพัดเย็นสบาย ไม่เพียงแค่ชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่สำหรับนักดูดาวก็สามารถมารอเก็บภาพดาวบนท้องฟ้ายามราตรีกันได้นะ  ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ https://goo.gl/maps/briq7qHqeSgkEU1c8  วันที่ 2 หาดปากน้ำปราณ – ต้นตาล 3 ต้น  เช้าวันที่ 2 แอดจะพาไปชมแสงแรกของวันกันที่ริมหาดปากน้ำปราณ ชายหาดแห่งนี้มีทั้งพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย รวมทั้งเป็นเส้นทางปั่นจักรยานของชาวปากน้ำปราณอีกด้วย หากมาในช่วงเย็น อีกฝั่งถนนจะมีสตรีทฟู้ดตั้งร้านเรียงราย มีอาหารอร่อยมากมายให้เราเลือกซื้อ ไฮไลต์ที่ใครมาก็จะต้องมาเช็คอิน และถ่ายรูปคู่กับ “ต้นตาล 3 ต้น” ที่เอียงตัวโน้มเข้าหาทะเล   ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ https://goo.gl/maps/2JWAawzyfiV1xbFd7 วนอุทยานปราณบุรี  จุดต่อไป เราจะไปที่ “วนอุทยานปราณบุรี” พื้นที่ป่าโกงกางขนาดใหญ่

✨ สวยสด หาด เขา ถ้ำ ณ ประจวบคีรีขันธ์ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨

เข้าหน้าร้อนแบบนี้ มีใครคิดแบบแอดบ้าง ที่นึกอยากจะกินข้าวแช่ขึ้นมาทุกครั้งไป ในฐานะคนชอบกินข้าวแช่ เลยอยากจะนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับข้าวแช่ พร้อมแนะนำพิกัดร้านข้าวแช่แสนอร่อยมาฝากกัน ข้าวแช่แต่เดิมเป็นอาหารของชาวมอญ ในอดีตการหุงข้าวแช่เป็นพิธีกรรมในการบูชาเทวดาอย่างหนึ่ง นิยมทำในวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ชาวมอญ เป็นโอกาสที่ญาติมิตรที่อยู่ห่างไกล ได้กลับมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อทำข้าวแช่ไปทำบุญและตั้งศาลของบ้านขึ้นมาเพื่อเซ่นไหว้เทวดา และถือโอกาสนำข้าวแช่ไปให้ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือและกราบไหว้ขอพร การทำข้าวแช่แบบมอญนั้น มีพิธีและขั้นตอนการทำมากมาย เริ่มตั้งแต่คัดข้าวสารเม็ดสวย มาซาวน้ำ 7 ครั้ง ให้สะอาด หุงโดยตั้งเตาไฟบนลานโล่ง ส่วนน้ำที่จะกินร่วมกับข้าวแช่ ต้องเป็นน้ำสะอาดต้มสุก เทลงหม้อดินเผาใบใหญ่ อบควันเทียนและดอกไม้หอม เช่น มะลิ กุหลาบมอญ กระดังงา ทิ้งไว้หนึ่งคืน เครื่องเคียงข้าวแช่หลัก ๆ มี 5 ชนิด ได้แก่ ปลาแห้งป่น เนื้อเค็มฉีกฝอย หัวไชโป๊เค็มผัดไข่ ไข่เค็ม และกระเทียมดอง ต่อมาข้าวแช่เป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่คนไทย เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระนครคีรี ทรงโปรดปรานข้าวแช่สูตรเมืองเพชรเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีเครื่องเคียงเพียง 3 อย่างเท่านั้น คือ ลูกกะปิ ปลากระเบนผัดหวาน และผักกาดเค็มผัดหวาน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการจัดทำข้าวแช่ เป็นข้าวแช่เสวยขึ้นถวาย ซึ่งมีการปรับสูตรเครื่องเคียงเป็นลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน ผักกาดเค็มผัดหวาน ปลาแห้งผัดหวาน รวมถึงผักสดแกะสลัก ร้อนนี้ ลองแวะไปหาข้าวแช่รับประทานกัน แอดมีพิกัดแนะนำหลายแห่ง เช่น เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นแหล่งรวมข้าวแช่ขึ้นชื่อหลายร้าน เช่น ร้านข้าวแช่คุณแดง (เปิดขายช่วงสงกรานต์) ร้านข้าวแช่ป้าสุดจิตร สูตรชาววัง ร้านข้าวแช่ลุงแดง เป็นต้น จังหวัดเพชรบุรี มีร้านข้าวแช่ชื่อดังหลายร้าน เช่น ข้าวแช่ป้าเอื้อน ที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี อยู่ตรงข้ามสถานีกาชาดที่ 8 อำเภอเมือง ร้านข้าวแช่แม่เล็ก สะกิดใจ อำเภอท่ายาง ในบริเวนเกาะรัตนโกสินทร์ มีข้าวแช่แม่ศิริ บางลำพู ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท ถนนตะนาวนอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยอีกหลายร้านในกรุงเทพฯที่มีเมนูข้าวแช่ขายในช่วงหน้าร้อน ดูพิกัดของร้านแล้ว ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งนั้น ไปร้านข้าวแช่อย่างเดียวคงไม่พอ คงต้องเตรียมตัวไปเที่ยวด้วยแล้วล่ะ

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา 🏝

อันซีนทุ่งหญ้าสะวันนากลางทะเลอันดามัน 🌾 ไฮไลท์พายคายัคชิลล์ ๆ ชมวิวคลองสีคราม 🚣‍♂ สายเที่ยวเน้นธรรมชาติ อยากสูดอากาศดี ๆ ให้เต็มปอด สัมผัสความเขียวขจีแบบใกล้ชิด มาปักหมุด #เกาะพระทอง เกาะขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดพังงา ที่นี่มีไฮไลท์เป็นทุ่งหญ้าสีทองหรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่าทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย โดยบริเวณทุ่งหญ้าหรือบริเวณป่าเสม็ดผืนใหญ่จะขึ้นอยู่ใจกลางเกาะเลย ซึ่งช่วงน่าเที่ยวจะเป็นช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน เพราะทุ่งหญ้าจะเปลี่ยนจากสีเขียวมาเป็นสีน้ำตาล ยิ่งถ้ามาตอนพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกดิน ทุ่งหญ้าจะมีสีน้ำตาลทอง สวยมาก ๆ 💚 และอีกหนึ่งไฮไลท์ห้ามพลาดหลังจากชมทุ่งหญ้าก็คือ การได้มาพายเรือคายัคชมวิวคลองน้ำใสเชื่อมทะเลสีคราม ช่วงเวลาที่น้ำขึ้นพื้นด้านล่างจะเป็นทราย พายเรือมองเห็นน้ำใสแจ๋ว ทั้งสนุกและน่าตื่นเต้นไปกับมุมคดโค้งต่าง ๆ แถมยังไม่ต้องกลัวร้อนด้วย เพราะเงาต้นไม้มีมาบดบังแสงแดดเรื่อย ๆ ตลอดเส้นทางเลยล่ะ ✨🌤 การเดินทาง : ขึ้นเรือที่ท่าคุระบุรี สามารถเหมาเรือของชาวบ้าน ค่าบริการไป-กลับ 3,000 บาทที่ตั้ง : เกาะพระทอง ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงาhttps://goo.gl/maps/Bi7geZcpJnjMgdek7

✨ เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา 🏝 อ่านเพิ่มเติม

วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี✨

วันหยุดนี้ แอดจะชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวชมวัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดจมน้ำ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด เรียกได้ว่าเป็น Unseen Thailand เลยทีเดียวล่ะ วัดใต้น้ำหรือวัดจมน้ำ Unseen Thailand แห่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นวัดที่จมน้ำ 2 วัด และไม่จมน้ำ 1 วัด โดย 2 วัดที่จมอยู่ใต้น้ำก็คือ วัดวังก์วิเวการามเก่าหรือวัดหลวงพ่ออุตตมะ และวัดศรีสุวรรณ ส่วนอีกวัดหนึ่งนั้นคือวัดสมเด็จเก่า ตั้งอยู่บนเนินเขา ว่ากันว่าทั้ง 3 วัดได้กลายเป็นความมหัศจรรย์แห่งอำเภอสังขละบุรีที่ทุกคนต้องหาโอกาสมาชมสักครั้งในชีวิต ระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี เป็นช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว เพราะช่วงเวลานี้ระดับน้ำจะลดลงมากที่สุด เราสามารถเดินเข้าไปชมภายในโบสถ์ได้ การเที่ยวชมวัดใต้น้ำ สามารถเช่าเรือได้บริเวณสะพานมอญ ราคาประมาณ 600 บาท ใช้เวลาไป – กลับ ประมาณ 45 นาที ช่วงเวลาแนะนำ คือช่วงเวลาเช้าหรือบ่ายแก่ ๆ เพราะแดดไม่ร้อนเกินไป บรรยากาศยามเย็นท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี

วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี✨ อ่านเพิ่มเติม

นั่งรถกบ ชมเมืองตรัง

จังหวัดตรัง นอกจากจะมีทะเลสวยจับใจแล้ว ในตัวเมืองก็มีวัดวาอาราม ตึกเก่าสวยคลาสสิคน่าไปถ่ายรูปไม่น้อย ซึ่งวิธีการเที่ยวรอบเมืองตรังที่สะดวกและน่าประทับใจที่สุดก็คือ นั่งรถตุ๊กตุ๊กหัวกบชมเมือง กิจกรรมนี้เป็นโปรแกรมยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนปักไว้ว่าต้องลองสักครั้ง เพราะรถตุ๊กตุ๊กหัวกบดีไซน์คลาสสิคนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตรังก็ว่าได้ ปัจจุบันแทบจะไม่มีที่ไหนใช้รถรุ่นนี้แล้ว ยังเหลือก็ที่นี่เท่านั้น การเดินทางโดยรถตุ๊กตุ๊กหัวกบ  เพื่อน ๆ สามารถนั่งรถรอบเมืองด้วยค่าบริการคนละ 20 บาท/เที่ยว หรือจะใช้บริการนำเที่ยวในราคาเริ่มต้น 250 บาท/ชั่วโมง หรือแล้วแต่ตกลงกับคนขับได้เลยว่าจะใช้เวลาเที่ยวนานเท่าไหร่โดยจุดจอดรถตุ๊กตุ๊กหัวกบจะอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟตรัง บอกก่อนเลยว่า เพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชื่นชอบตึกเก่า จะคุ้มมาก ๆ ถ้าได้มาเที่ยวตรัง เพราะจะได้เห็นวัฒนธรรมที่ผสมผสานทั้งไทย ยุโรป และจีนไปด้วยกัน  เมนูเด็ดของตรัง  มาถึงถิ่นภาคใต้ก็ต้องมากินติ่มซำกัน กระซิบบอกก่อนว่าควรมากินมื้อเช้า เพราะร้านส่วนใหญ่จะเปิดเช้ามาก ๆ และของอาจจะหมดไวด้วย มีหลายร้านให้เลือกเลย เช่น ร้านพงษ์โอชา (มี 2 สาขา) ร้านเลตรัง ติ่มซํา ร้านเตอรัง ติ่มซำ ฯลฯ เมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดอีกเมนูก็คือ “หมูย่างเมืองตรัง” ถ้าเพื่อน ๆ ไปกินติ่มซำที่ร้านพงษ์โอชา ก็สามารถสั่งมาชิมได้ นอกจากนี้ยังมีร้านอื่น ๆ เช่น หมูย่างเมืองตรังโกเภาโกสุยหมู่ย่าง หมูย่างโกอึ้ง ฯลฯ ไม่ไกลจากย่านร้านอาหาร มีจุดเช็คอินถ่ายรูปชิค ๆ กับภาพเขียนบนกำแพงสวยงาม เป็น Street Art ภาพวาด 3 มิติซึ่งแต่ละภาพ บ่งบอกความเป็นตรังได้อย่างชัดเจน  ที่ปากซอย ราชดำเนิน 1 มี ภาพเขียน “ต้นศรีตรัง” ต้นไม้มงคลประจำจังหวัดตรังที่มีดอกสีม่วงสดใส ยามเมื่อออกดอก ทั้งต้นจะเห็นเป็นสีม่วงอย่างในภาพเขียนที่เราเห็น จากปากซอย เดินเข้ามาเพียงแค่ 100 เมตร จะเจอกับภาพเขียน “ต้นยางพารา” ตามประวัติการปลูกต้นยางพาราในไทยนั้น พบว่าปลูกครั้งแรกที่จังหวัดตรัง โดยเป็นการนำเมล็ดเข้ามาปลูก ปัจจุบัน ต้นยางรุ่นแรกของไทยเหลือเพียงต้นเดียวที่บริเวณถนนตรังคภูมิ อำเภอกันตัง  ห่างออกไป 500 เมตร มีภาพ “ถ้ำมรกต” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนบนเกาะมุก จังหวัดตรัง จากนั้นเลี้ยวขวาไปราว ๆ 550 เมตร จะพบวิหารคริสต์เก่าแก่ “คริสตจักรตรัง” หนึ่งในสถานที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวตรัง  วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2458 มีความโดดเด่นแปลกตา เพราะมีหอระฆังอยู่ด้านข้าง อาคารเป็นสีเหลืองมัสตาร์ดทั้งหลัง นับจากเมื่อแรกสร้างจนปัจจุบัน อาคารมีการบูรณะหลายครั้ง แต่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมที่งดงามคลาสสิกเอาไว้อย่างดี จนได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น เมื่อปี พ.ศ. 2552  24 ถนนเพชรเกษม ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ในเมืองตรัง เพื่อน ๆ จะได้เห็นตึกเก่า อาคารเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีสสวย ๆ หลายหลัง ถือเป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นมาก เพื่อน ๆ ที่อยากมีรูปเก๋ ๆ สามารถแวะถ่ายรูปกับตึกสวยๆ กันได้นะ  “วัดตันตยาภิรม พระอารามหลวง” เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ถือเป็นวัดสำคัญ และเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการในจังหวัดตรังเมื่อปี พ.ศ. 2461 จุดเด่นก็คือเจดีย์ทรงบาตรคว่ำสีขาว เรียงซ้อนกัน 5 ชั้น ด้านในมีจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติ ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันพระเท่านั้น  ตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรังhttps://goo.gl/maps/tH87ppy8JkA2 “วงเวียนพะยูน” แลนด์มาร์คอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวมักมาแวะถ่ายรูป พะยูนถือเป็นสัตว์อนุรักษ์ที่อยู่คู่ทะเลตรัง พบมากบริเวณเกาะลิบง เพราะเป็นพื้นที่อุดมไปด้วยหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของพะยูนนั่นเอง  อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือนายคอซิมบี้ ณ ระนอง บุคคลที่ชาวตรังรักและระลึกถึงอยู่เสมอ ในฐานะผู้สร้างคุณูปการให้แก่เมืองตรังมากมายหลายด้าน อาทิ การคมนาคม เกษตรกรรม กสิกรรม การศึกษา การปกครอง และยังเป็นผู้ที่นำยางพารามาปลูกที่จังหวัดตรัง  อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีhttps://goo.gl/maps/pFayNfhCEgL2

นั่งรถกบ ชมเมืองตรัง อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวเชียงราย…ให้คลายร้อน

หยุดยาวคราวนี้ คนที่วางแผนไว้ว่าจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ในภาคเหนือ แต่ยังนึกไม่ออกว่าหลังจากเล่นน้ำแล้วจะไปเที่ยวไหนต่อ วันนี้แอดจะมาแนะนำที่เที่ยวคลายร้อนในจังหวัดเชียงราย เผื่อเป็นไอเดียให้คนที่กำลังวางแผนการเดินทางอยู่ ไปดูกันว่า ที่ไหนบ้างที่ยังคงมีบรรยากาศเย็นสบาย แม้ในช่วงหน้าร้อน 1. วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน – สถานที่ประวัติศาสตร์ใน“ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี่” ที่โลกต้องจารึก 2. อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง (ไร่แม่ฟ้าหลวง) – แหล่งรวบรวมสถาปัตยกรรม งานพุทธศิลป์ ศิลปวัตถุของล้านนา 3. น้ำตกขุนกรณ์ – เล่นน้ำตก ชมธรรมชาติที่ร่มรื่นเย็นสบายแม้ในฤดูร้อน  วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน  ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 คงแทบไม่มีใครไม่รู้จักถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน กับปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี่ 13 ชีวิต ปฏิบัติการนี้ไม่เพียงได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก แต่ยังทำให้ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน วันนี้แอดจะพาไปเที่ยวชม วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ที่ขณะนี้ได้รับการปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่หลายลูกทอดตัวต่อกันในแนวเหนือ-ใต้ โดยลาดชันมาทางทิศตะวันออก มีลักษณะคล้ายกับผู้หญิงนอน จึงเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ดอยนางนอน” ในส่วนของถ้ำหลวงมีความยาวถึง 10.3 กิโลเมตร ก่อนหน้าปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ฯ นี้ ถ้ำหลวงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนท้องถิ่นนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันอยู่แล้ว เพราะภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่งดงาม บริเวณด้านหน้าถ้ำหลวง เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ นาวาตรี สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตทหารประจำหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หนึ่งในทีมค้นหา- กู้ภัย นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอคาเดมี่ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ บริเวณปากถ้ำ มีการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติการจริงช่วงสถานการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่า รวมไปจนถึงของใช้ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า รถจักรยาน ที่ทีมหมูป่าทิ้งไว้หน้าถ้ำก่อนเข้าไปในถ้ำ เดินเข้าถ้ำไปประมาณ 50 เมตร จะเป็นโถงที่ 1 ซึ่งเป็นเพียงส่วนเดียวที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ มีความยาว เกือบ 200 เมตร ใช้เป็นศูนย์บัญชาการของ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในการค้นหา-กู้ภัยทีมหมูป่าอคาเดมี่ มีการติดตั้งไฟนำทางเดินตั้งแต่ปากโถง ไปจนถึงส่วนท้ายของโถง ภายในโถงที่ 1 นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามของหินงอกหินย้อย ที่ปรากฏอยู่ทั่วโถง มีการจัดไฟส่องให้เห็นความงามกันชัด ๆ หินงอกหินย้อยภายในถ้ำหลวงเป็นหินปูนที่จะมีน้ำไหลหยดตลอดเวลาในช่วงฤดูฝน ทางเดินตั้งแต่ปากโถงที่ 1 ไปจนถึงส่วนปลายโถง บางจุดจะแคบและชัน จึงมีการสร้างราวจับ รวมถึงจัดไฟส่องนำทางให้ เนื่องจากแนวโถงถ้ำมีเส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเข้าถึงง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ โดยเฉพาะในส่วนโถงถ้ำที่ลึกเข้าไป จะยิ่งเข้าถึงได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนท้ายสุดของโถงที่ 1 จัดแสดงโต๊ะเก้าอี้ของทีมแพทย์และทีมบัญชาการกู้ภัย จุดนี้มีการจัดแสดงแผนที่ส่วนต่างๆภายในถ้ำหลวงพร้อมภาพประกอบ ตั้งแต่โถง 1 ไปจนถึงเนินนมสาว จุดที่พบตัวทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ซึ่งอยู่ห่างจากปากถ้ำราว 2.3 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวถ้ำหลวงคือระหว่าง เดือนพฤศจิกายน ถึง เมษายน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมถ้ำหลวงได้ถึงบริเวณโถงที่ 1 โดยจะปิดถ้ำห้ามเข้าชมในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนของทุกปี เนื่องจากมักมีน้ำหลากเข้าไปในตัวถ้ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้  ไม่เก็บค่าเข้าชม เพราะอยู่ระหว่างการเตรียมการ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ  ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เปิดทุกวันเวลา 8.30 – 16.30 น. 09 4603 3511 https://goo.gl/maps/i1k12N1Wx8hnkxfE6 อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง (ไร่แม่ฟ้าหลวง) ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 150 ไร่ จุดประสงค์เมื่อแรกก่อตั้งไร่แม่ฟ้าหลวง คือ เพื่อเป็นที่พักสำหรับเยาวชนชาวเขาในพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับทุนพระราชทานจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีให้มาศึกษาต่อในเมือง ต่อมาได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม เป็นสถานที่ที่รวบรวมสถาปัตยกรรม งานพุทธศิลป์ และศิลปวัตถุของล้านนาหลากหลายสมัย มีพรรณไม้พื้นถิ่นปลูกไว้หลายชนิด ทั้งยังได้รับรางวัล Thailand Tourism Award 2006 ประเภท รางวัลดีเด่นด้านแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เพราะมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นปลูกไว้ทั่วทั้งบริเวณ ภายในอุทยานฯประดิษฐาน พระรูปปั้นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สร้างจากสัมฤทธิ์ ขนาดเท่าครึ่งของพระองค์ ผลงานของคุณมีเซียม ยิปอินซอย  หอคำ  สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง รูปทรงอาคารสอบเข้าตามลักษณะเรือนล้านนาโบราณ สไตล์การก่อสร้างได้รับแรงบันดาลใจจากวัดปงสนุก จังหวัดลำปาง ไม้นานาชนิดที่ใช้ก่อสร้างมาจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ รวมกับไม้จากบ้านเก่าจำนวน 32 หลัง ชาวเชียงรายร่วมใจสร้างหอคำนี้เป็นเครื่องไหว้สาแม่ฟ้าหลวง ในโอกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษาเมื่อปี พ.ศ. 2527 ภายในหอคำเป็นที่ประดิษฐานพระพร้าโต้ พระไม้โบราณของล้านนา รวมไปถึงจัดแสดงสัตภัณฑ์หรือเชิงเทียนบูชาไม้แกะสลักโบราณ ศิลปวัตถุและงานพุทธศิลป์ เช่น พระพุทธรูปแบบล้านนา พม่า ตุงกระด้าง และขันดอก  หอแก้ว  เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับไม้สัก และนิทรรศการหมุนเวียนอื่น ๆ ศิลปวัตถุไม้สัก ที่นำมาจัดแสดง ได้แก่ งานไม้ในสถาปัตยกรรมไทยต่างๆ เช่น ไม้แกะสลัก ไปจนถึงเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวล้านนา อันแสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่แนบแน่นของชาวเหนือที่มีต่อไม้สักในหลายมิติ บางชิ้นเป็นศิลปกรรมของสะสมที่มีผู้มอบให้ไว้เพื่อเก็บรักษา  ศาลาแก้ว  เป็นศาลาริมน้ำทรงล้านนาที่มีเอกลักษณ์งดงาม ใช้เป็นอาคารเอนกประสงค์สำหรับกิจกรรมต่างๆ ปัจจุบันอุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง อยู่ภายใต้การบริหารงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์  ชาวไทย 100 บ. ชาวต่างชาติ 200 บ.  133 หมู่ 7 บ้านป่างิ้ว ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เปิดให้เข้าชม วันอังคาร-วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)  0 5371 6605-7 www.maefahluang.org https://goo.gl/maps/tMxzYidsvZ72Xcwd8

เที่ยวเชียงราย…ให้คลายร้อน อ่านเพิ่มเติม

✨ เกาะผ้า “รีบมา…เดี่ยวน้ำขึ้น!!” ✨

ถ้าคุณกำลังคิดถึง ทะเลใส ๆ หาดทรายขาว ๆ เส้นขอบฟ้าทอดยาวสุดสายตา ”พังงา” ถือเป็นตัวเลือกอันยอดเยี่ยมในการท่องเที่ยวหนีร้อนมานอนติดเกาะ ซึ่งมีให้เที่ยวกันไม่ซ้ำกว่า 155 เกาะเลยทีเดียว หากถามว่าเกาะไหนสวยที่สุด อันนี้เราคงตอบให้ไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าเกาะไหนแปลกสุด…มาที่ “เกาะผ้า” ได้เลย เกาะแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากเกาะคอเขา โดยนั่งเรือออกไปกลางท้องทะเลกว้างใหญ่ไม่เกิน 40 นาที มองดี ๆ จะเห็นสันทรายที่เป็นได้ตั้งแต่เนินปุ๊กปิ๊กน่ารัก 3 เนิน จนถึงเกาะขนาดเกือบ 1 ตารางกิโลเมตร นี่แหละความมหัศจรรย์ของเกาะผ้าที่จะเปลี่ยนรูปร่างไปมาตามระดับน้ำทะเล พอเข้าไปใกล้ ๆ เราก็จะได้พบผืนทรายเรียบ ๆให้เราเดินเหยียบแบบนุ่ม ๆ (ถ้าไม่ไปเหยียบโดนเปลือกหอยเข้า) เราจะได้นอนอาบแดด หรือดำน้ำชมปะการัง หรือจะออกแรงพายเรือแคนู ดูความใสของน้ำทะเลให้เต็มอิ่ม ยิ่งถ้าได้เห็นเกาะนี้จากด้านบนลงมาจะเห็นเลยว่าเหมือนแผ่นผ้าสีขาวลอยอยู่บนพื้นน้ำสีครามไม่มีผิด ครั้งหนึ่งในชีวิตลองไปติดเกาะผ้า เกาะที่ต้องมาตอนน้ำลดดู

✨ เกาะผ้า “รีบมา…เดี่ยวน้ำขึ้น!!” ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้าวเปิ๊บ อาหารถิ่นสุโขทัย ✨

เพื่อน ๆ รู้จักข้าวเปิ๊บกันไหม ถ้ายังไม่รู้จัก มาทำความรู้จักกัน ข้าวเปิ๊บ หรือในอดีตเรียกกันว่า ก๋วยเตี๋ยวพระร่วง เป็นอาหารถิ่นของ จ.สุโขทัย มีส่วนประกอบที่เรียบง่าย รสชาติอร่อย แถมยังดีต่อสุขภาพมาก ๆ คำว่า “เปิ๊บ” มาจากภาษาถิ่น แปลว่า “พับ” วิธีการทำคล้ายกับข้าวเกรียบปากหม้อ โดยการขึงผ้าขาวบางไว้บนปากหม้อ เมื่อน้ำเดือดก็นำแป้งสดมาละเลงแล้วเกลี่ยบาง ๆ เมื่อแป้งสุกก็ใส่วุ้นเส้น ผักบุ้ง กะหล่ำปลี และถั่วงอกลงไป รอสักครู่ให้เครื่องสุก จากนั้นพับแป้งห่อเครื่องให้เป็นสี่เหลี่ยม จากนั้นตักใส่ชาม เติมหมูสับ ไข่ดาวนึ่ง ปิดท้ายด้วยการราดน้ำซุปกระดูกหมูรสชาติกลมกล่อม จะเห็นว่าไม่ได้ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงมากมาย แต่รสชาตินั้นอร่อยจนใครต่อใครต่างพากันติดใจ

✨ ข้าวเปิ๊บ อาหารถิ่นสุโขทัย ✨ อ่านเพิ่มเติม

รวม 8 ทะเลสวยใกล้กรุงเทพฯ 🏝 ขับรถเที่ยวชิลล์ ๆ รับซัมเมอร์ 🗾

🌤🌊 ฤดูร้อนมาถึงแล้ว และฤดูแห่งการเที่ยวทะเลก็มาถึงเช่นกัน ใครคิดถึงทะเล สายลม และแสงแดดเตรียมปักหมุด แพลนทริปเที่ยวกันไว้ได้เลย ซึ่งวันนี้แอดจะมาแนะนำพิกัดทะเลใกล้กรุงเทพฯ เที่ยวทะเลชิลล์ ๆ ให้สดชื่น ฉบับขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง ไปง่าย สะดวกสบายแบบไม่ต้องลางาน จะเช็คอินเสาร์-อาทิตย์ หรือแบบ One Day Trip ก็ยังพักผ่อนได้เต็มที่ 😍 8 ทะเลสวยใกล้กรุงเทพฯ น่าไปเที่ยวมาก เกาะกูด จ.ตราด เกาะขาม จ.ชลบุรี เกาะเสม็ด จ.ระยอง หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกาะล้าน จ.ชลบุรี เกาะแสมสาร จ.ชลบุรี เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เกาะช้าง จ.ตราด  เกาะกูด จ.ตราด ช่วงต้นปีเป็นช่วงที่เกาะกูดกำลังฮิตมาก ๆ เพราะทะเลสวย น้ำใสแจ๋ว เหมาะกับการไปเที่ยวที่สุด ที่พักหลากหลาย กิจกรรมบนเกาะก็มีให้ทำครบทั้งพายเรือคายัค ดำน้ำ ดูปะการัง ตกหมึก เที่ยวคาเฟ่ ล่องเรือก็ฟิน โดยซีซั่นน่าเที่ยวเกาะกูดจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม นอกนั้นฝนจะเริ่มมา ทะเลจะมีคลื่น ไม่สวยใสเท่าช่วงนี้จ้า  Maps ท่าเรือแหลมศอก : https://goo.gl/maps/vBAtPTLqWfEHNCoy9เกาะกูด : https://goo.gl/maps/fD6j5M1935Tqq2W39  เกาะขาม จ.ชลบุรี หลาย ๆ คนคงจะคุ้นเคยกับภาพของทะเลเกาะขามเป็นอย่างดี ด้วยมุมไฮไลท์สะพานไม้ทอดยาวกับโขดหินต่าง ๆ ตัดกับทะเลสีคราม เรียกว่าถ่ายรูปออกมาสวยมาก ๆ และยังมีร้านค้า ร้านขายอาหารครบครัน ใครอยากดำน้ำ พายเรือคายัคก็มีอุปกรณ์ให้เช่าพร้อม หรือจะมานั่งเรือท้องกระจกชมปลา ดำน้ำตื้นก็ได้ แต่บนเกาะจะไม่มีที่พักนะคะ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ของอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 การเดินทางข้ามไปยังเกาะขามสามารถโดยสารเรือข้ามไปยังเกาะได้ที่ท่าเทียบเรือเขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี Maps : ท่าเรือเขาหมาจอ https://goo.gl/maps/LAKwkuZ6zhgbrWNz8 Maps เกาะขาม : https://goo.gl/maps/9p2YxtPi9fE5Pyff7  เกาะเสม็ด จ.ระยอง ฮอตฮิตอันดับต้น ๆ ของทะเลน่าไปจังหวัดระยองเลยทีเดียว ไม่ว่าจะฤดูร้อนหรือฤดูไหน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติก็มากันไม่ขาดสาย ที่นี่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนชิลล์ ๆ หรือจะมาทำกิจกรรมก็ได้ เพราะมีหลายหาดให้เลือกเที่ยว เช่น หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน อ่าวพร้าว และที่พักมากมายไว้คอยให้บริการ การเดินทางข้ามไปยังเกาะเสม็ดสามารถนั่งเรือข้ามฟากได้ที่ท่าเรือเพ ท่าเรือนวลทิพย์ ท่าเรือลุงหวัง ฯลฯ แต่ละที่ราคาไม่แตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับความสะดวกของเราเลย  Maps : ท่าเรือเพ https://goo.gl/maps/dmnFgH2YFbuhu1rW9 Maps : เกาะเสม็ด https://goo.gl/maps/TNAETw3UcNss7mQ37  หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถ้าพูดถึงทะเลใกล้กรุงเทพฯ ต้องคิดถึงหัวหินแน่นอน เป็นทะเลที่แรกของใครหลาย ๆ คนเลยล่ะ เพราะใกล้กรุงเทพฯ มาก เดินทางไม่กี่ชั่วโมงก็ได้สัมผัสกับหาดทรายกว้างใหญ่ น้ำทะเลสวยใส นั่งรับลมชมวิวกันได้แล้ว แถมที่พัก ร้านอาหารหาง่าย ที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ ก็เพียบ จะมากี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลย  Maps : https://goo.gl/maps/twTVpsC8wef5BgCU7  เกาะล้าน จ.ชลบุรี ที่เที่ยวรับหน้าร้อนอันดับต้น ๆ เพราะไม่จำเป็นต้องมีรถยนตร์ส่วนตัวก็มาได้ สามารถเดินทางโดยรถสาธารณะง่าย ๆ ได้ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เลยจ้า ส่วนเรื่องทะเลสวย หาดน่าไปเกาะล้านเขาก็ขึ้นชื่อทั้ง หาดตาแหวน หาดเทียน หาดตายาย หาดนวล ฯลฯ เรียกว่าน่าไปทั้งนั้นเลย การเดินทางสามารถนั่งเรือโดยสารพัทยา-ท่าเรือหน้าบ้าน เกาะล้าน หรือเรือโดยสารพัทยา-หาดตาแหวน เกาะล้าน ได้เลยจ้า Maps : ท่าเรือแหลมบาลีฮาย เรือโดยสารพัทยา https://goo.gl/maps/pNuMTnRr8X1Tj2sh8 Maps : https://goo.gl/maps/ATCdkPtdtTrMyzpv8  เกาะแสมสาร จ.ชลบุรี เกาะแสมสาร 1 ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลย ทะเลสวย น้ำใส หาดทรายขาวละเอียด และมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวทำเพียบ เช่น ดำน้ำ ดูปะการัง นั่งเรือท้องกระจก เดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ฯลฯ การเดินทางข้ามไปยังเกาะแสมสารสามารถโดยสารเรือข้ามไปยังเกาะได้ที่ท่าเทียบเรือเขาหมาจอเลยจ้า Maps : ท่าเรือเขาหมาจอ https://goo.gl/maps/LAKwkuZ6zhgbrWNz8 Maps : https://goo.gl/maps/6WHzESouwQG2kZAx8  เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ถ้าอยากเที่ยวติดเกาะแต่มีเวลาไม่มาก เกาะสีชังตอบโจทย์สุด ๆ เพราะมาวันเดียวก็เที่ยวได้ ใช้เวลาขับรถมาไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถไปเช้าเย็นกลับได้แบบสบาย ๆ ซึ่งบนเกาะเองก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แบบครบครัน ถึงตัวเกาะจะเล็ก แต่เที่ยวสนุกไม่แพ้ที่อื่นเลย  ไฮไลท์น่าเที่ยวบนเกาะ – อัษฎางค์ประภาคาร– ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่– ช่องอิศริยาภรณ์ หรือ ช่องเขาขาด– พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย– ยอดพระจุลจอมเกล้า สักการะรอยพระพุทธบาทจำลองและพระบรมสารีริกธาตุ– พระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังบนเกาะแห่งแรกในประเทศไทย– พระเจดีย์อุโบสถวัดอัษฎางค์นิมิตร– สะพานอัษฎางค์ / มุมนี้เป็นมุมห้ามพลาด ต้องมาถ่ายรูปสักครั้ง  Maps : https://goo.gl/maps/7YNSuPFC3Fx5zBnt7 ขึ้นเรือไปเกาะสีชังที่เกาะลอย : https://goo.gl/maps/kZD3Gv1fZQXEQdh36  เกาะช้าง จ.ตราด อีกหนึ่งที่เที่ยวสุดฮิตใกล้กรุงเทพฯ เกาะช้าง จ.ตราด มีที่พักหลากหลายมาก ถ่ายรูปสวยปังสุด ๆ บนเกาะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติเขียวชอุ่ม ทั้งป่า ภูเขา น้ำตก ทะเลสีคราม หาดทรายละเอียด จะมาพักผ่อนชิลล์ ๆ พายเรือคายัค ชมวิวสวย ดำน้ำ ล่องเรือในวันหยุด เกาะช้างก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่ไม่ควรพลาด ไฮไลท์ถ่ายรูปสวยเกาะช้าง– จุดชมวิวหาดทรายขาว– จุดชมวิวแหลมไชยเชษฐ์– หาดคลองพร้าว– หาดท่าน้ำ– น้ำตกธารมะยม– น้ำตกคลองนนทรี– ป่าชายเลนบ้านสลักเพชรฯลฯ การเดินทางไปเกาะช้างสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือเฟอรี่อ่าวธรรมชาติ ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ได้เลย Maps : ท่าเรือเกาะช้างอ่าวธรรมชาติ https://goo.gl/maps/3vezRSZmG9adp4ZD7 Maps

รวม 8 ทะเลสวยใกล้กรุงเทพฯ 🏝 ขับรถเที่ยวชิลล์ ๆ รับซัมเมอร์ 🗾 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top