อาหารท้องถิ่น

ชิมแกงมะแฮะ อาหารถิ่น จ.ตาก

จากพืชพื้นบ้านสู่อาหารถิ่น จ.ตาก 
“มะแฮะ” เป็นพืชชนิดหนึ่ง ผลเป็นฝักเล็กๆ ลักษณะคล้ายฝักถั่วเหลืองหรือถั่วแระ เมล็ดมีรูปร่างกลมหรือแบนเล็กน้อย มีทั้งสีเหลือง สีขาว และสีแดง ขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว…

ชิมแกงมะแฮะ อาหารถิ่น จ.ตาก อ่านเพิ่มเติม

CHATA

CHATA หรือ ชะตา มาจากคำว่า “ชะตาลิขิต” เหมือนโชคชะตาลิขิตเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ จุดเริ่มต้นของร้านเกิดจากกำแพงอิฐเก่าดั้งเดิมของตัวบ้านซึ่งเป็นโรงแรมในปัจจุบัน และเป็นเพราะโชคชะตาจึงทำให้เจ้าของร้านเกิดไอเดียในการสร้างร้านคาเฟ่นี้ขึ้นมา การเดินทาง จากถนนเยาวราช จนถึงเเยกเฉลิมบุรี สังเกตป้ายวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) เลี้ยวขวาสู่ถนนพาดสาย ร้านจะอยู่ซ้ายมือตั้งอยู่ภายในโรงแรม Baan 2459 สามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวได้ที่บริเวณข้างโรงแรม พิกัด :https://goo.gl/maps/uS2E3Phxraz เห็นหน้าตาทางเข้าคลาสสิกแบบนี้ ก็แสดงว่าเรามาถูกที่กันแล้วล่ะ CHATA Specialty Cafe ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Baan 2459 บูทีคโฮเทลในย่านเยาวราช ร้านชะตาจึงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไปด้วย ร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรก เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบเรือนกระจกที่แต่เดิมเคยเป็นล็อบบี้ของโรงแรมมาก่อน ลูกค้าสามารถสั่งเครื่องดื่มและขนมได้ที่นี่เลย ตัวอาคารเป็นเรือนกระจกทำให้ดูโปร่งโล่งสบายตา ภายในตกแต่งแบบไทยผสมโมเดิร์น ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และลวดลายของพื้นกระเบื้องทำให้ร้านดูคลาสสิกมากยิ่งขึ้น ออกจากอาคารแรก เราเดินผ่านทางเดินเล็กๆ ระหว่างหน้าร้านและตัวโรงแรมไปยังโซนที่ 2 บริเวณนี้มีร่องรอยของกำแพงอิฐโบราณ และต้นไม้ที่มีกิ่งก้านห้อยระย้าสวยงาม เมื่อผ่านทางเดินเล็กๆ มายังด้านหลังโรงแรม จะเจอกับอีกโซนหนึ่งของคาเฟ่ ซึ่งเป็นสไตล์ Contemporary Loft เก๋ๆ ตัวเรือนกระจกขนาดปานกลาง เปิดรับแสงจากธรรมชาติภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ มองออกไปข้างนอกจะเห็นกำแพงอิฐเก่าที่เป็นจุดเด่นของร้าน  มุมนี้หรือมุมไหนๆ แอดก็ไม่พลาด มุมโปรดของนางแบบนายแบบทุกคนที่จะต้องถ่ายภาพกับกำแพงเก่าแก่นี้ มาชะตาก็ถูกชะตากับเมนูซิกเนเจอร์นี้เลย Latte La Toey (130 บาท) กาแฟรสนมกลมกล่อมมาพร้อมเลเยอร์ของไซรัปใบเตย กลิ่นหอมขึ้นจมูก Butterfly Effect (130 บาท) ม็อกเทลซิกเนเจอร์ ที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ล เสาวรส ส้ม และน้ำใบเตย มาพร้อมกับน้ำอัญชันที่ให้เราได้เติมส่วนผสมลงไปเอง เพิ่มสีสันสดใสให้กับเครื่องดื่มแบบเก๋ๆ  Hot Cocoa (100 บาท)  เมนู Non Coffee ต้องลองโกโก้ร้อนสุดเข้มข้น มีอาร์ตด้านบนสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปอีกด้วย Coconut Cake (65 บาท) เมนูนี้ทานกับเครื่องดื่มอะไรก็อร่อย เนื้อแป้งฟูนุ่ม มะพร้าวหวานกลมกล่อม ต้องลอง!  Carrot Cake เค้กอัดแน่นไปด้วยเนื้อแคร์รอตกับครีมชีสเข้ากันได้ดีเชียวล่ะ รสเปรี้ยวตัดหวานโรยด้วยอัลมอนด์กรุบกรอบ

CHATA อ่านเพิ่มเติม

หลงโถว…หลงเข้ามาแล้วจะติดใจ

หลงโถว…หลงเข้ามาแล้วจะติดใจ ร้านหลงโถว คาเฟ่ ตั้งอยู่บริเวณต้นถนนมังกร นี่จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน เพราะ “หลงโถว” ภาษาจีนแปลว่า หัวมังกร เมื่อนึกถึงจีน ก็ต้องนึกถึงสีแดงแปร๊ดๆ แต่ทางร้านต้องการหลุดจากภาพจำเดิมๆ จึงใช้สีเขียวและสีแดงเข้มแทน ซึ่งก็ยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นจีนอยู่ แถมเป็นจีนแบบย้อนยุคซะด้วย เท่สุดๆ เนื่องจากร้านมีพื้นค่อนข้างน้อย แต่ก็อยากให้ลูกค้านั่งได้เยอะๆ จึงได้ออกแบบให้เป็นที่นั่ง 2 ชั้น ดีไซน์เก๋ไก๋จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ทางร้านบอกเล่าความเป็นเยาวราชผ่านการดีไซน์ร้านและเมนูอาหาร Egg Lava Bun ซาลาเปาไส้ไข่ไหล มีความแตกต่างตรงที่เป็นซาลาเปาทอด กรอบนอกนุ่มใน Lhong Tou Shumai เป็นการผสมผสานระหว่างขนมจีบกับเกี๊ยว คือห่อแป้งแบบเกี๊ยว แต่รูปร่างเหมือนขนมจีบ สอดไส้ด้วยหมูสับและกุยช่าย บอกเลยว่าไส้แน่นมาก อร่อยเต็มปากเต็มคำ อย่าลืมทานคู่กับน้ำจิ้มที่มีรสชาติเผ็ดนิดๆ ของทางร้านด้วยนะ ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่ เกี๊ยวกุ้งทอด อาหารที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี หาทานได้ง่ายมาก ที่เยาวราชก็มี แต่บอกเลยว่า เกี๊ยวทอดของที่นี่ไส้แน่นจุใจมาก อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือ ชุดน้ำชาของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็น ชาเก๊กฮวย ที่ได้รสชาติของดอกเก๊กฮวยจริงๆ ซึ่งสำหรับคนติดหวานก็สามารถเติมน้ำเชื่อมลงไปได้ หรือ ชาหอมหมื่นลี้ผสมดอกอัญชัน ที่ฟังจากชื่อก็รู้แล้วว่าต้องหอมสุดๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีชาดอกไม้ชนิดต่างๆ ให้ได้ลิ้มลองอีกหลายเมนู นอกจากชุดน้ำชาแล้ว เมนูเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้สำหรับร้านอาหารจีนก็คือ ชาและกาแฟ ✳ Lhong Tou’s Signature – Thai Milk Tea ชาไทยรสเข้ม ที่เพิ่มความอร่อยด้วยขนมตุ๊บตั๊บ ให้เรามาเคี้ยวเล่นเพลินๆ สร้างรสสัมผัสในการดื่มให้อร่อยยิ่งขึ้น ✳ Dirty เครื่องดื่มเอสเปรสโซกับนมเย็น เอ๊ะ มันจะร้อนหรือจะเย็นกันแน่ แต่เมื่อดื่มไปพร้อมกันแล้ว ก็เข้ากันได้อย่างลงตัว ขอบคุณรูปภาพจาก facebook ร้านหลงโถว

หลงโถว…หลงเข้ามาแล้วจะติดใจ อ่านเพิ่มเติม

เลาะกาฬสินธุ์โลด…ฟินอีหลีเด้อ

เลาะกาฬสินธุ์โลด…ฟินอีหลีเด้อ ตลาดทุ่งนาทอง ไปเที่ยวต่างจังหวัดทั้งที อย่ามัวแต่นอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงค่ะ ตื่นเช้าออกไปสัมผัสชีวิตของผู้คนบ้างดีกว่า ไปดูว่าเขาทำอะไรและทานอะไรกันบ้างในตอนเช้า  อย่างที่กาฬสินธุ์ก็มีตลาดทุ่งนาทอง เป็นตลาดเช้าที่เปิดขายกันตั้งแต่ 02.00-13.00 น. อาหารที่ขายส่วนใหญ่ก็เหมือนกับตลาดเช้าทั่วๆ ไปของจังหวัดอื่น ไม่ว่าจะเป็นโจ๊ก ปาท่องโก๋ หมูปิ้ง และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย แต่ความพิเศษของตลาดเช้าที่กาฬสินธุ์นั้นก็คือ มีส้มตำขายกันตั้งแต่หกโมงเช้าเลยค่ะ เรียกได้ว่าคนที่นี่ทานส้มตำกันเป็นอาหารเช้าเลยก็ว่าได้ ว่าแล้วแอดก็อดใจไม่ไหว ต้องขอลองชิมสักหน่อย นอกจากส้มตำแล้ว ที่นี่ยังมีไก่ย่างและปลาเผาอีกด้วย ในส่วนของรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึง ทั้งแซ่บทั้งนัวสุดๆ แอดเชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ ได้ลองทานแล้วจะต้องร้องว้าวเลยล่ะ  สวนปันบุญ ออร์แกนิคฟาร์ม เป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์ ที่สามารถเข้าไปดูได้ทั้งวิธีการปลูกผัก ปลูกข้าว และเลี้ยงไก่ ผักของที่นี่ปลูกตามฤดูกาล อย่างช่วงหน้าฝนแบบนี้ ผักส่วนใหญ่จะเป็นผักชี ต้นหอม ผักกวางตุ้ง ขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง สลัดคอส กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรียกได้ว่ามีผักสดๆ ทานตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน ส่วนข้าวที่ปลูก จะเป็นข้าวแดง มะลินิลสุรินทร์ แอดลองชิมแล้ว ทั้งหอม นุ่ม และอร่อยสุดๆ และสุดท้าย ไก่ไข่ของที่สวนปันบุญใหญ่เป็นพิเศษ เพราะเลี้ยงไก่อย่างดี ทำให้ไก่อารมณ์ดีและออกไข่ใบโต ใครที่สนใจอยากจะเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ สามารถมาที่สวนปันบุญได้เลยค่ะ ที่นี่จะให้ความรู้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การทำปุ๋ยหมักจากใบไม้ และการทำจุลินทรีย์คืนความสาวให้ผักสดกรอบ ในครั้งนี้ แอดได้มีโอกาสลงมือทำกิจกรรม DIY เกี่ยวกับการทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ และพวงกุญแจด้วย บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้ความรู้มากมายเลยค่ะ  สำหรับแอด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสใช้จักรเย็บผ้า วินาทีที่เท้าสัมผัสแป้นเหยียบที่ใช้ควบคุมการเย็บนั้น แอดทั้งตื่นเต้นและกังวลมากเลยค่ะ เพราะกลัวว่าจะทำของเค้าพัง  ตุ๊กตาที่แอดเย็บเองก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย (ฝีมือก็ใช้ได้อยู่นะ) หลังจากทำกิจกรรม DIY เสร็จ เราก็เดินชอปปิงกันต่อเลย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจของฝากน่ารักๆ และราคาถูก แอดแนะนำที่นี่เลย เพราะจะได้ซื้อสินค้าของฝากในราคาส่ง แหม ถูกและน่ารักขนาดนี้ทำให้แอดอดใจไม่ไหว ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านหลายชิ้นเลย แต่สำหรับพวกเราจะให้ไปนั่งรอกินกันแบบธรรมดาๆ ก็กระไรอยู่..มา Go Local กันที่ชุมชนบ้านท่าเรือภูสิงห์ทั้งที ก็ต้องลองย่างกุ้งด้วยตัวเองสิ  นอกจากกุ้งและปลาสดๆ แล้ว ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างส้มตำปลาร้าแซ่บๆ ปลาส้มใบตองมัดตอกโบราณย่าง ทอดมันปลากราย ปลาเนื้ออ่อนทอด ปลาส้ม แจ่วบอง ปลาตากแห้ง ฯลฯ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์แปรรูปฝีมือพี่ๆ กลุ่มแม่บ้านท่าเรือภูสิงห์นั่นเอง สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ แอดแอบกระซิบดังๆ ว่า อาหารที่นี่ราคามิตรภาพสุดๆ  ก่อนเดินทางแอดแนะนำให้ติดต่อจองคิวกันล่วงหน้า เนื่องจากกุ้งแม่น้ำจะมีเยอะที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ส่วนช่วงฤดูอื่นๆ สามารถสอบถามได้ที่☎ คุณไก่ (ผู้ใหญ่บ้านท่าเรือภูสิงห์) โทร.098 532 2258, 096 719 8243☎ ปลัดตั้ง โทร.095 987 4698 เมนูแนะนำ อเมริกาโน่ สเปเชียล เทคนิคในการดื่มคือ ค่อยๆ ชิมให้ได้ 3 ระดับ กาแฟจะมีความหอมและหวานขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ทางร้านยังมีกาแฟอีกหลากหลายเมนู ที่รอให้นักชิมทุกท่าน ได้มาดื่มด่ำรสชาติกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ ทางร้านใช้กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนที่แอดไปถือว่าโชคดีมาก เพราะเจ้าของร้านได้สาธิตวิธีชงกาแฟแบบ Syphon และ Mokapot ให้ดูด้วย ☕ การชงกาแฟแบบ Syphon เป็นการชงแบบสุญญากาศ รสชาติที่ได้ จะเป็นกาแฟดำ หอม เข้มสะใจ ☕ การชงกาแฟแบบ Mokapot เป็นการใช้แรงดันน้ำที่เดือดจัด กลั่นกาแฟออกมา จะได้กาแฟรสเข้ม และหอม แต่จะเบาบางกว่าการชงแบบ Syphon ใครที่อยากลองมาชิมกาแฟแบบต่างๆ และเรียนรู้วิธีการชงกาแฟ สามารถมาที่ร้านได้เลยค่ะ เจ้าของร้านใจดี ยินดีตอบทุกคำถาม Hung Huang OTOP Life Style เป็นศูนย์ส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในชุมชน ของฝากของที่ระลึกของที่นี่เก๋ไก๋สไลเดอร์ โดนใจวัยรุ่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาและหมอนไดโนเสาร์ เสื้อผ้า เสื้อคลุม พวงกุญแจ เครื่องปั้นดินเผา ของตกแต่งบ้าน รวมไปถึงกระเป๋าถือสำหรับคุณผู้หญิง 

เลาะกาฬสินธุ์โลด…ฟินอีหลีเด้อ อ่านเพิ่มเติม

ฮาเตียน : Hatien Cafe

Hatien Cafe  การเดินทาง ร้านฮาเตียนคาเฟ่ เป็นร้านเล็กๆ 3 ชั้น คลาสสิกด้วยรูปลักษณ์ของร้านและของเก่าของสะสมสไตล์วินเทจมากมาย ที่ล้วนเข้ากันได้อย่างลงตัว เป็นคาเฟ่น้องใหม่ที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจ มาลองลิ้มชิมรสขนมอร่อยๆ กันมากมาย บริเวณชั้น 2 ประดับด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์ดูหรูหรา บนผนังตกแต่งด้วยกรอบรูปมากมายซึ่งภายในบรรจุภาพประวัติศาสตร์อันมีคุณค่า และยังมีจุดเด่นอยู่ที่ผนังสีเขียวเข้มดูลึกลับน่าค้นหาอีกด้วย สวยทุกมุมเลย มาแล้ววว กาแฟอัญชัน (120 บาท) สีสันอาจจะดูหม่นๆ แต่รสชาติไม่หม่นนะจ๊ะ รสเข้มของกาแฟผสมกับนมอัญชันหอมละมุนที่อยู่ก้นแก้ว สำหรับผู้ที่ชอบทานกาแฟแบบไม่เข้มจนเกินไป แก้วนี้ตอบโจทย์เลย  เมนูขนมเค้กที่ทางร้านแนะนำ คือ Macadamia Cake (180 บาท) อร่อยมากกก ดีงาม เค้กเนื้อนุ่มราดด้วยคาราเมลและถั่วแมคคาเดเมียเม็ดโต เมนูนี้ต้องลอง ขนมของร้านนี้จะเป็นโฮมเมดทั้งหมด ซึ่งในแต่ละวันก็จะมีเมนูแตกต่างกันออกไป น่าทานทุกอย่างเลย ^^ ขึ้นบันไดเวียนมาดูชั้นที่ 3 กันบ้าง กับบรรยากาศห้องกระจกและดาดฟ้าที่เปิดรับแสงจากภายนอก ตกแต่งด้วยสีขาวคลีนๆ สบายตา ให้สีสันและความรู้สึกแตกต่างจากชั้น 2 อย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยังคงความวินเทจที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน จากเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งต่างๆ

ฮาเตียน : Hatien Cafe อ่านเพิ่มเติม

“กี่จ่าง” ขนมอร่อยหาทานยาก

“กี่จ่าง” ขนมอร่อยหาทานยาก กี่จ่าง หรือ ขนมจ้าง ทำมาจากข้าวเหนียว วิธีการทำในปัจจุบันอาจจะมีการประยุกต์ปรับเปลี่ยนสูตรกันบ้าง แต่วิธีการดั้งเดิมนั้นเริ่มจากนำข้าวเหนียวไปแช่น้ำด่าง ประมาณ 3 วัน (ซึ่งน้ำด่างนั้นได้มาจากการนำเปลือกทุเรียนหรือเปลือกนุ่น ที่ผ่านการเผาจนเป็นขี้เถ้าแล้วมาผสมน้ำ ตั้งทิ้งไว้จนตกตะกอน แล้วกรองเอาน้ำใส ๆ มาใช้) หลังจากนั้นนำข้าวเหนียวที่แช่ไว้ไปล้างให้สะอาด ให้ข้าวเหนียวสะเด็ดน้ำ แล้วนำมาห่อเป็นทรงสามเหลี่ยมด้วยใบไผ่สด มัดด้วยเชือกปอ จากนั้นก็นำไปต้มราว ๆ 3 ชั่วโมง ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย กี่จ่างมีรสจืด เนื้อมีลักษณะใสและเหนียวนุ่ม เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การทานคู่กับน้ำตาลทราย นำกี่จ่างมาจิ้มหรือคลุกลงบนน้ำตาลทราย ทานคู่กับกาแฟหรือชาเป็นอาหารว่าง…อร่อยเลิศ!!! สำหรับใครที่อยากลองทานขนมกี่จ่าง…ในวันที่ 18-19 สิงหาคมนี้ สามารถตามไปชิมกันได้ที่งาน “สุขทุกวัน วิถีจันทบูร” ณ ตลาดทุบหม้อ วัดพลับบางกะจะ จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. นอกจากจะไปหาชิมขนมกี่จ่าง ขนมโบราณ ขนมแปลกต่างๆ แล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น การแสดงจากศิลปินชื่อดัง จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงกิจกรรมเล่นเกมส์สนุกๆ ลุ้นรับของรางวัลเพียบอีกด้วย

“กี่จ่าง” ขนมอร่อยหาทานยาก อ่านเพิ่มเติม

Happy Mother’s Day : พาคุณแม่ไปทานของอร่อยที่ Green House Bistro

Happy Mother’s Day : พาคุณแม่ไปทานของอร่อยที่ Green House Bistro บรรยากาศรอบๆ ร้านตกแต่งด้วยต้นไม้มากมาย มีความร่มรื่น และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลยค่ะ ภายในร้านจะมีโซนร้านอาหารกับโซนร้านคาเฟ่แยกกันค่ะ โซนร้านอาหาร ตกแต่งได้สวยมาก แอดชอบสุดๆ ข้างในกว้างขวาง ตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้ ให้ความรู้สึกสบายๆ อาหารของทางร้านเป็นอาหารสไตล์ฟิวชั่น สำหรับแอด เมนูอร่อยจนต้องบอกต่อ จะมีประมาณนี้… สปาเกตตี้ โอริโอ้ กรีนเฮ้าส์ จานนี้ไม่ได้ใส่ขนมโอริโอ้ ลงไปแต่อย่างได้ แต่ “olio” เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า น้ำมัน สปาเกตตี้จานนี้ คือ สปาเกตตี้ผัดกระเทียมน้ำมันมะกอก เพิ่มเบคอนและเครื่องอีกหลายอย่างลงไป หอมทั้งกลิ่นกระเทียม น้ำมันมะกอก แถมทานคู่กับเบคอน ฟินฝุดๆ มัสมั่นกระดูกอ่อนโรตี และแกงเผ็ดอกเป็ดรมควันโรตีกรีนเฮ้าส์ ทางร้านทำเครื่องแกงเอง การันตีความเข้มข้น และความอร่อยเลยค่ะ  ขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก : facebook Green House Bistro ส่วนอันนี้คือ โซนร้านคาเฟ่ สำหรับคนที่ไม่ได้มาจัดของหนัก ก็มาสั่งเครื่องดื่ม ขนม นั่งชิลๆ ได้ที่นี่ค่ะ ในส่วนของเครื่องดื่ม มีให้เลือกหลายหลาย ทั้งกาแฟ ชา และสมูทตี้ น่าทานไปหมด เมนูแนะนำ : สายรักสุขภาพต้องลอง ” โยเกิร์ต สมูทตี้ มิกซ์เบอร์รี่ ” ทานแล้วชื่นใจสุดๆ ส่วนสายชาและกาแฟ ต้องลอง กาแฟ Nitro Cold Brew กาแฟสกัดเย็นมีฟอง รสชาตินุ่มคอ หรือ ชาเขียวมัทฉะเข้มข้น ที่เพิ่มความหวานด้วยไอศกรีมโฮมเมด ขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก : facebook Green House Bistro ปิดท้ายด้วยขนมหวานสไตล์โฮมเมด ซึ่งมีตัวชูโรงอย่าง เค้กสุดอร่อยหลายชนิด และไอศกรีมโฮมเมดหวานน้อย สูตรเฉพาะของทางร้าน ซึ่งเอาไปทานกับอะไรก็อร่อย ไม่ว่าจะเป็นเมนู “Thai Tea Toast” ขนมปังสังขยาชาไทย หรือ “Roti Icecream” โรตีกรอบ โรยหน้าด้วยกล้วยหอมและผงโกโก้ ทางร้านยังมีอาหารและขนมหวานอีกหลายเมนูรอให้ทุกคนไปชิมกันอยู่นะคะ  ขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก : facebook Green House Bistro

Happy Mother’s Day : พาคุณแม่ไปทานของอร่อยที่ Green House Bistro อ่านเพิ่มเติม

ตลาดอยุธยาไนท์มาร์เก็ต

เกร็ดความรู้ :  ในสมัยอยุธยาพิกัดเดิมตรงนี้ก็คือ “ตลาดผ้าเหลือง” ซึ่งขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ผ้าไตรจีวร เครื่องทองเหลือง เป็นต้น ดังที่ปรากฏอยู่ในละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” นั่นเองค่ะ มาเยือน จ.อยุธยา ทั้งทีเราต้องไม่พลาดที่จะทานกุ้งเผาอยุธยานะคะ เพราะกุ้งเผาอยุธยานั้นสด เนื้อแน่น หวานอร่อย แถมยังมีมันกุ้งเยิ้มๆ ด้วย ถ้าได้ทานพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บ แอดรับรองว่าเพื่อนๆ จะติดใจ (บรรยายเองแอดยังแอบน้ำลายไหลเลย) เรามาต่อกันที่เมนูก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสแซ่บ ที่เด็ดถึงทรวงดวงฤทัยกันค่ะ ดูจากรูปเพื่อนๆ ก็คงจะเดาได้ว่ารสชาติต้องเข้มข้นแน่ๆ แต่แอดบอกเลยว่าของจริงเข้มข้นกว่าในรูปเยอะค่ะ ยิ่งเมนูก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลที่ใส่กุ้งและปลาหมึกตัวโตๆ พร้อมไข่ต้มยางมะตูม พอได้ลองทานแล้วฟินสุดๆ เลยค่ะ กุ้งอบวุ้นเส้นเป็นอีกหนึ่งเมนูที่แอดแนะนำเลยค่ะ ที่อื่นอาจจะใช้กุ้งตัวเล็กทำให้เราฟินไม่สุด แต่ที่นี่นอกจากวุ้นเส้นที่มีรสชาติกลมกล่อมไปด้วยเครื่องเทศต่างๆ แล้ว ยังให้กุ้งตัวใหญ่อีกด้วยค่ะ แถมน้ำจิ้มซีฟู๊ดยังแซ่บ ซี๊ด จี๊ดสะใจอย่าบอกใครเชี่ยว พักเรื่องกุ้ง แล้วมาต่อกันที่ไก่บ้างนะคะ ไก่ทอดของที่นี่ทำเอาแอดไม่สามารถเดินผ่านไปโดยที่ไม่แวะไม่ได้เลย เพราะกลิ่นของไก่ทอดช่างหอมอบอวล เย้ายวนใจสุดๆ มีความกรอบนอกนุ่มในเมื่อได้ลองทาน แถมไก่ทอดของที่นี่ยังมีหลายสูตรให้เลือกชิมอีกด้วย สำหรับข้าวคลุกกะปิของที่นี่ก็มากไปด้วยเครื่องเคียงต่างๆ ครบตามต้นตำรับของข้าวคลุกกะปิอย่างแน่นอน แถมแม่ค้ายังน่ารัก ใจดี และเป็นกันเองอีกด้วยค่ะ สำหรับข้าวน้ำพริกกะปิและปลาทูของร้านนี้ ทำเอาแอดท้องร้องเลยทีเดียวค่ะ เพราะมีปลาทูตัวโต มากไปด้วยผักต้มนานาชนิด อีกทั้งน้ำพริกกะปิก็ยังเรียกน้ำย่อยของแอดอีกด้วย ขนมไหมฟ้าหรือขนมหนวดมังกร เป็นขนมมงคลของคนจีนค่ะ ทำมาจากน้ำผึ้งที่นำมากวนผสมกับแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวโพด แป้งข้าวเหนียว และแป้งข้าวโอ๊ตค่ะ นำมานวดดึงๆ ยืดๆ จนกลายเป็นเส้นฝอยเล็กๆ จากกนั้นนำมาห่อไส้ ซึ่งมีทั้งเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่ว และงาขาวค่ะ เคล็ดลับในการทาน สามารถทานได้ทั้งแบบปกติและแบบแช่เย็นค่ะ ถ้าทานตอนเสร็จใหม่ๆ ขนมจะยังนุ่มๆ เมื่อกัดลงไปจะสามารถยืดได้เหมือนชีสเลยล่ะค่ะ ส่วนถ้านำไปแช่ตู้เย็น ขนมก็จะแข็งขึ้นนิดนึง ทำให้ทานง่ายขึ้น อร่อยไปอีกแบบค่ะ ใครที่ชื่นชอบทุเรียน ที่นี่ไม่ได้มีทุเรียนขาย แต่มีลอดช่องเส้นทุเรียนที่จะมายั่วยวนเหล่าบรรดาคอทุเรียนให้ได้ซื้อกลับไปทานกันค่ะ ไอศครีมวาฟเฟิลของที่นี่มีไอศกรีมหลายหลายรสให้เราได้เลือกชิมกันค่ะ แต่ที่แอดไปชิมมาคือรสกะทิและสตรอว์เบอร์รีค่ะ รสกะทิได้ความหวานมันของกะทิแบบสุดๆ เพราะไม่ผสมนม ส่วนรสสตรอว์เบอร์รีก็หวานอมเปรี้ยวนิดๆ เรียกได้ว่าอร่อยกำลังดีเลยล่ะค่ะ ส่วนวาฟเฟิลก็กรอบนอกนุ่มในแอดอยากให้ลองไปทานกันดูนะคะ ไข่ปลาทอดเป็นอาหารที่พบเห็นได้ตามตลาดทั่วไปในภาคใต้ค่ะ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นเมนูสุดฮิตที่ใครๆ ต่างก็อยากลิ้มลอง ไข่ปลาที่ใช้นั้นคือไข่ปลาตะเพียนที่นำมาปรุงรสชาติ แล้วนำมาทอดเป็นชิ้นเล็กๆ ลักษณะคล้ายขนมบ้าบิ่น ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากลองชิม ก็ไปกันได้ที่ตลาดแห่งนี้เลยค่า แค่เห็นแพ็กเกจก็ดูน่าสนใจแล้วใช่มั้ยละคะ ที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นั้นคือก๋วยเตี๋ยวลุยสวนที่นำมาใส่เข่งปลาทูขาย เป็นการสร้างมูลค่าและเพิ่มความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่แอดขอบอกว่าก๋วยเตี๋ยวลุยสวนของที่นี่ไม่ได้มีแค่รูปลักษณ์ที่น่าทานอย่างเดียวนะคะ เพราะยังมีความอร่อยซ่อนอยู่ด้วย พักเรื่องกิน แล้วมาชมอีกหนึ่งไฮไลท์ของตลาดแห่งนี้กันดีกว่าค่ะ จุดนี้เรียกถือเป็นมุมมหาชนเลยก็ว่าได้ ใครๆ ที่มาเที่ยวต่างก็จะต้องถ่ายรูปมุมนี้กลับไปอวดเพื่อนๆ กันค่ะ เพราะตรงนี้คือท่าน้ำบ้านหมื่นสุนทรเทวา ที่สร้างจำลองมาจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ประหนึ่งว่าตนเองเป็นแม่หญิงการะเกด ที่มานั่งรอคุณพี่หมื่นกลับเรือน แอบกระซิบว่ามุมนี้ตอนกลางคืนสวยสุดๆ ล่ะค่ะ ^^ นอกจากเมนูอาหารคาวหวานที่แอดนำมาเสิร์ฟเรียกน้ำย่อยของเพื่อนๆ แล้ว ที่นี่ยังมีอีกหลายเมนูที่แอดอยากให้ลองไปทานกันดูค่ะ เพราะถ้านำมาเล่าให้ฟังกันหมด เพื่อนๆ ก็จะไม่ตื่นเต้นน่ะสิคะ อิอิ ตลาดอยุธยาไนท์มาร์เก็ต เป็นตลาดย้อนยุคยามค่ำคืนที่แสนพิเศษค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ แสงไฟสวยงามที่ประดับตกแต่ง และอาหารมากมายหลายชนิด มันช่างทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินสุดๆ เลยค่ะ มาเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ

ตลาดอยุธยาไนท์มาร์เก็ต อ่านเพิ่มเติม

ไก่ย่างไม้มะดัน ของอร่อยห้วยทับทัน ต้องห้ามพลาด!!!

ไก่ย่างไม้มะดัน #ของอร่อยห้วยทับทัน ต้องห้ามพลาด!!! ถ้าเราเดินทางไปทางอีสานใต้ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 226 เมื่อถึงบริเวณอำเภอห้วยทับทัน เราจะพบกับร้านไก่ย่างไม้มะดันเรียงรายอยู่ริมทางมากมาย มีให้เลือกซื้อเลือกชิมมากกว่า 50 ร้านเลยทีเดียว บางคนอาจมีคำถามว่า ทำไมต้องเป็นไม้มะดัน ? ที่มานั้นก็เนื่องมาจาก บริเวณริมลำน้ำห้วยทับทันมีต้นมะดันป่าจำนวนมาก ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของไม้มะดันก็คือ มีความเหนียว ไม่ฉีกขาดง่าย ทนร้อน ทนไฟ และเมื่อนำไปทำไม้หนีบไก่สำหรับย่างนั้น จะทำให้มีกลิ่นหอมและมีรสชาติเฉพาะตัวกว่าไม้ไผ่ซึ่งหาได้ยากในบริเวณนี้ จึงทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ของไก่ย่างที่นี่ไปนั่นเอง ไก่ที่นำมาย่างนั้นจะใช้ไก่ลูกผสมหรือไก่สามสายพันธุ์ ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ กรมปศุสัตว์ นำแม่พันธุ์มาส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยง ขยายพันธุ์ และนำมาแปรรูปเป็นไก่ย่าง ไก่ย่างที่ย่างสุกแล้ว เนื้อไก่จะแน่นมันน้อย ได้รสเปรี้ยวเล็กๆ ของไม้มะดัน จิ้มน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยฟินเฟร่อออออออ ราคาไก่ย่างแต่ละไม้ ขึ้นอยู่กับขนาดของไก่ เริ่มต้นที่ 25 บาท ถึงประมาณ 120 บาทต่อไม้ หาซื้อทานได้ที่ บริเวณอำเภอห้วยทับทัน ริมทางหลวงหมายเลข 226 (สุรินทร์ – ศรีสะเกษ) หรือบริเวณหน้าสถานีรถไฟห้วยทับทัน ร้านส่วนใหญ่จะเปิดขายตั้งแต่เช้าตรู่ ถึงตอนค่ำๆ เลย  ถ้าใครมีโอกาสผ่านไปแถวนั้น อย่าลืมแวะชิมความอร่อยของไก่ย่างไม้มะดันกันด้วยนะครับผม ^^ พิกัด : https://goo.gl/maps/BF2iMJ8BQvk

ไก่ย่างไม้มะดัน ของอร่อยห้วยทับทัน ต้องห้ามพลาด!!! อ่านเพิ่มเติม

Cafe Dé Forest : ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์น

Cafe Dé Forest : ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์น จังหวัดสระบุรีบ้านไร่ใบเฟิร์น จ.สระบุรี by Yunsita & Mam ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์นแห่งนี้ ตั้งอยู่ระหว่างทางไปศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จิบกาแฟเสร็จก็สามารถไปปิกนิกหรือกางเต็นท์พักแรมต่อกันได้  การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ตรงไปจังหวัดสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) มุ่งหน้าเข้าตำบลทับกวาง และกลับรถตรงสะพานเกือกม้าหน้าเทศบาลทับกวาง เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบท 1003 (เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า) เลยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแก่งคอยประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือ จากบ้านไม้หลังใหญ่ ได้รับการรีโนเวทให้กลายเป็นร้านกาแฟสุดฮิปชิค แบ่งเป็น 2 ชั้น พร้อมมุมถ่ายรูปอีกเพียบ แค่หน้าร้านก็แชะภาพได้เยอะเลยล่ะ นอกจากนี้ที่นี่เค้ายังเปิดให้มากางเต็นท์พักแรมริมลำธารได้ด้วยนะ บรรยากาศดีมากๆ เลย แอบเสียดายที่วันที่แอดไปมีฝนตก ท้องฟ้าก็เลยดูขมุกขมัวเล็กน้อย แต่ก็ทำให้อากาศเย็นสบายมากเลยค่ะ ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวคงจะฟินน่าดู สงสัยต้องมาจัดอีกสักรอบแล้ว ชั้นล่างบริเวณใต้ถุนบ้านมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้ โซฟา แม้แต่ชิงช้าหรือเปลญวนก็มี ภายในร้านตกแต่งแนววินเทจ มีรูปถ่าย ของกระจุกกระจิกน่ารักๆ ที่มุมนั้นมุมนี้เต็มไปหมด ดูแล้วเข้ากัน ลงตัวไปหมดทุกอย่าง ส่วนที่ชั้น 2 ก็มีระเบียงให้ชมวิวภูเขาด้านหลังร้านด้วย วิวดีมากๆ เลย  ร้านเปิดแค่วันเสาร์-อาทิตย์ จึงทำให้มีผู้มาเยือนเเน่นร้านเลยล่ะ ได้ยินเจ้าของร้านเปรยๆ ว่า เร็วๆ นี้อาจจะเปิดวันธรรมดาด้วย ยังไงก็รอติดตามกันต่อไปนะคะ ^^ ขึ้นมาชั้น 2 ของร้านกันบ้าง ใครชอบถ่ายรูปบอกเลยว่า 5 นาทีจัดไป 20-30 ภาพแน่นอน มองไปก็เห็นวิวภูเขาอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมที่นั่งเก๋ๆ จิบกาแฟกันได้เพลินๆ เลย มาฝากท้องมื้อหนักที่นี่ได้ เพราะเค้ามีทั้งอาหารคาวและเครื่องดื่มให้บริการ ทุกเมนูเจ้าของร้านทำเองและยังเสิร์ฟเองอีกด้วย เป็นกันเองสุดๆ เหมือนมาเที่ยวบ้านญาติจริงๆ เลย ^^

Cafe Dé Forest : ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์น อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top